สธ.หารือกทม. วางแนวทางการป้องกันโรคระบาดหลังน้ำลด

กระทรวงสาธารณสุข ประชุมร่วมกรุงเทพมหานคร วางมาตรการเฝ้าระวังควบคุม ป้องกันโรคระบาดหลังน้ำลดร่วมกัน  ที่สำคัญ 5 โรคได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ โรคฉี่หนู อหิวาตกโรค ไข้เลือดออกและตาแดง  โดยจะมีการเชื่อมโยงระบบการทำงาน ระบบข้อมูลการเฝ้าระวังโรค  และเสริมการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรค

          วันนี้(18 พฤศจิกายน 2554)ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ประชุมหารือมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนและป้องกันโรคระบาดหลังน้ำลดร่วมกับ พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและคณะผู้บริหารของกรุงเทพมหานคร

          นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจากนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้หารือเรื่องการป้องกันควบคุมโรคระบาดหลังน้ำลดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น และเป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่ โดยโรคที่จะต้องเฝ้าระวังที่สำคัญ มี 5 โรค ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ โรคฉี่หนู อหิวาตกโรค ไข้เลือดออก และตาแดง  ซึ่งเป็นความรับผิดชอบและต้องทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับกรุงเทพมหานคร โดยจะมีการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกันพร้อมทั้งเชื่อมโยงระบบเฝ้าระวังโรค และมีระบบการทำงานร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดโรคระบาด

          นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อไปว่า  ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคที่สำคัญ คือขยะ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ทำการจัดเก็บอยู่แล้ว ส่วนกระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปดำเนินการฉีดยาฆ่าหนอนแมลงวัน ซึ่งเป็นตัวการนำโรคอุจจาระร่วง   และพ่นยาฆ่าตัวแก่ของยุงลาย  การใส่ยาฆ่าลูกน้ำยุงลายในท่อระบายน้ำซึ่งอาจมีน้ำค้างอยู่ตามท่อได้ เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก

ส่วนการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่   จะมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคในกลุ่มเสี่ยง เช่นผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว      ส่วนโรคฉี่หนู ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม  จะช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนที่ต้องเดินลุยน้ำท่วม   ให้ใส่รองเท้าบู๊ท ป้องกันไม่ให้เกิดบาดแผลที่เท้าและขา  หรือใช้ถุงพลาสติกชนิดหนา มาสวมเท้าเพื่อป้องกันการสัมผัสน้ำเน่า ส่วนประชาชนที่ทำความสะอาดบ้านหลังน้ำลด ขอให้สวมถุงมือยางเพื่อป้องกันการเกิดบาดแผลซึ่งเป็นทางเข้าของเชื้อโรคฉี่หนูด้วย

     ........................................... 18 พฤศจิกายน 2554