กระทรวงสาธารณสุข ตั้งศูนย์เยียวยาใจผู้ประสบภัยประจำตำบลหลังน้ำลด โดยให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลร่วมกับอสม. ช่วยฟื้นฟูเสริมสร้างจิตใจให้เข้มแข็ง กลับมาสู่ปกติโดยเร็ว เผยผลการตรวจประเมินสุขภาพจิตหลังน้ำท่วม พบผู้ประสบภัย กว่า 8,000ราย ซึมเศร้า ท้อแท้ เสี่ยงฆ่าตัวตาย 1,521 ราย           
บ่ายวันนี้ (24พฤศจิกายน 2554) นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่วัดบ้านท่ากลาง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์  ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำลดลงทั้งหมด อยู่ระหว่างการฟื้นฟูให้กลับมาสู่ภาวะปกติ โดยได้เยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และมอบยาชุดน้ำท่วม จำนวน 1,000ชุดให้แก่ผู้ประสบภัย เพื่อใช้ดูแลการเจ็บป่วยเบื้องต้นภายในครัวเรือน
นายต่อพงษ์กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 ระดับน้ำลดลง ยังเหลืออีก 17 จังหวัดรวมทั้งกทม.ที่ยังคงมีน้ำท่วม แต่แนวโน้มน้ำลดลงเรื่อยๆ โดยหลังน้ำลดกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมแผนฟื้นฟูไว้ทั้งหมดแล้ว และเริ่มทยอยไปหลายพื้นที่ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยประชาชน ป้องกันไม่ให้มีโรคระบาด และป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายหลังเกิดปัญหาน้ำท่วม โดยดำเนินการทุกตำบลเป็นมาตรฐานเดียวกันใน 5เรื่อง ได้แก่ 1.การบริการรักษาพยาบาล 2.การเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค 3.การบริการฟื้นฟูสุขภาพจิต 4.การจัดการด้านสุขาภิบาลให้สะอาด ปราศจากขยะ สิ่งปฏิกูล น้ำเน่าเสีย และ 5.การคุ้มครองผู้บริโภค ควบคุมความปลอดภัยอาหารและน้ำดื่ม น้ำแข็ง
สำหรับการดูแลสุขภาพจิตผู้ประสบภัย จะต้องเร่งสลายความเครียดที่เกิดขึ้น ป้องกันไม่ให้สะสมจนป่วยเป็นโรคทางจิต ที่รุนแรงน่าห่วงที่สุดคือการฆ่าตัวตาย ตามแผนการฟื้นฟูสุขด้านจิตใจ กระทรวงสาธารณสุขจะจัดตั้งศูนย์เยียวยาประจำตำบลขึ้น โดยให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)มาดำเนินการช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ โดยทำร่วมไปกับปัญหาสุขภาพทางกาย โดยได้ตั้งงบประมาณดำเนินการไว้ทั้งหมด 72ล้านกว่าบาท ขณะนี้ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว 34ล้านกว่าบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาการเยียวยาอีกประมาณ 38 ล้านบาท       
นายต่อพงษ์กล่าวต่อว่า ผลการตรวจประเมินสุขภาพจิตหลังน้ำท่วมใน 64 จังหวัด พบผู้ประสบภัยมีความเครียดสูง 6,956ราย มีอาการซึมเศร้า เบื่อหน่ายกว่า 8,000 ราย เสี่ยงฆ่าตัวตาย 1,521 ราย และต้องติดตามดูแลเป็นพิเศษ 2,457ราย จนถึงขณะนี้มีผู้ประสบภัยที่ต้องรักษาด้วยยาคลายเครียดจำนวน 7,282ราย โดยกระทรวงสาธารณสุขจะติดตามประเมินผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่องทุก 3 เดือน 6 เดือน จนกว่าจะปกติ
ทางด้านนายแพทย์ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า โดยทั่วไปปัญหาสุขภาพจิต เช่นนอนไม่หลับ ซึมเศร้า วิตกกังวล หรือการฆ่าตัวตาย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ผู้ประสบภัยจะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาเนื่องจากตกอยู่ในภาวะเครียดและวิตกกังวลต่ออนาคตข้างหน้า อาการหรือความผิดปกติที่เป็นสัญญาณเตือนว่าผู้ประสบภัยกำลังประสบปัญหาสุขภาพจิต จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้น ได้แก่ 1.อาการนอนไม่หลับ 2.อาการเครียดและวิตกกังวลบ่อยๆ 3.บ่นท้อแท้ แยกตัว 4.หงุดหงิดง่าย 5.มีการใช้สารเสพติดหรือใช้เพิ่มขึ้นจากที่เคยใช้ในช่วงปกติ หากพบว่ามีผู้ประสบภัยมีอาการที่กล่าวมา ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรืออสม.ที่อยู่ในหมู่บ้าน เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป      
                     ******************************   24 พฤศจิกายน 2554


   
   


View 11    24/11/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ