กระทรวงสาธารณสุข เปิดโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยปีนี้ 10 แห่ง บริการตรวจรักษาทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน โดยบูรณาการการให้บริการสอดคล้องกับการแพทย์แผนปัจจุบัน พร้อมตั้งคณะกรรมการกำหนดค่ารักษาพยาบาลการแพทย์แผนไทยสำหรับผู้ป่วยในเพื่อเป็นค่ามาตรฐานกลางใช้ในการเบิกจ่ายซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศ คาดจะประกาศใช้ในปีนี้ และยังขยายความร่วมมือกับ 3 มหาวิทยาลัยในเชียงราย สงขลา และสกลนคร จัดตั้งโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยเพื่อขยายบริการทางเลือกสู่ประชาชนในวงกว้าง
วันนี้ (17กุมภาพันธ์2555)ที่กระทรวงสาธารณสุขนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย ระหว่างนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กับ รศ.ผดุงยศ ดวงมาลา รองอธิการบดีฝ่ายศิษย์เก่าและชุมชนสัมพันธ์ มหาวิทยาสงขลานครินทร์ รศ.ดร.วินิจ โชติสว่าง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จ.สกลนคร และผศ.ดร.มาณพ ภาษิตวิไลธรรม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย
ความร่วมมือครั้งนี้ จะมีการร่วมกันพัฒนาบริการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยโดยบูรณาการบริการให้สอดรับกับการแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเหมาะสม โดยมีการศึกษาวิจัยประสิทธิผล คุณภาพความปลอดภัยของการแพทย์แผนไทยทั้งเรื่องการรักษาโรค อาการเจ็บป่วยต่างๆ ยาสมุนไพร การผดุงครรภ์ และการนวดไทย การพัฒนาบุคลากรและกรอบอัตรากำลังการแพทย์แผนไทยที่เหมาะสมในสถานพยาบาลทุกระดับ และพัฒนาให้เป็นแหล่งศึกษา ฝึกปฏิบัติงานของนักเรียน นักศึกษาด้านการแพทย์แผนไทยและสาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
นายวิทยากล่าวว่า ในปี 2555 นี้ กระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายพัฒนาการแพทย์แผนไทย 3 เรื่องหลักได้แก่ 1.ให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งมีบริการการแพทย์แผนไทยครอบคลุมถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 2.เปิดโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยจำนวน 10 แห่ง ให้บริการตรวจรักษาทั้งผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน และในชุมชนด้วยแพทย์แผนไทย รักษาด้วยยาแผนไทย ทั้งยาเดี่ยวและยาตำรับ เป็นทางเลือกประชาชนอย่างครบสูตร ผสมผสานกับแผนปัจจุบัน ประกอบด้วยโรงพยาบาลศูนย์ 2 แห่ง ได้แก่ร.พ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ร.พ.พระปกเกล้าจันทบุรี จ.จันทบุรี โรงพยาบาลชุมชน 7 แห่ง ได้แก่ ร.พ.สมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จ.แพร่ร.พ.เทิง จ.เชียงราย ร.พ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ร.พ.วังน้ำเย็น ร.พ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ร.พ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ร.พ.ท่าโรงช้าง จ.สุราษฎร์ธานี และที่กทม. 1 แห่งคือโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ที่ยศเส และ3.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาแนวทางการเบิกค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยใน สำหรับโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย 1 ชุด มีอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯเป็นประธาน เพื่อศึกษาแนวทางเบิกค่ารักษาพยาบาลโรคต่างๆด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย โดยจะศึกษาในโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย 13 แห่งซึ่งรวมของมหาวิทยาลัย 3 แห่งด้วย ถือเป็นการปูทางครั้งแรกของประเทศ เนื่องจากยังไม่เคยมีการกำหนดมาก่อน คาดว่าจะประกาศใช้ทันในปีนี้
ทางด้านนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยทั้ง 10 แห่งนี้ จะบูรณาการบริการตรวจรักษาด้วยการแพทย์แผนไทยให้สอดรับกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เช่น เอ็กซเรย์ ตรวจเลือด การส่งต่อผู้ป่วย โดยมีแพทย์แผนไทยและบุคลากรที่เกี่ยวข้องดำเนินการ มีบริการทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ใช้ยาแผนไทยทั้งยาเดี่ยวและสูตรตำรับที่มีส่วนผสมสมุนไพรหลายตัว ที่มีทั้งนอกและในรายการบัญชียาหลักแห่งชาติ รักษาผู้ป่วยได้หลายระบบ เช่น โรคสะเก็ดเงิน เบาหวาน โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคที่เกี่ยวกับโลหิตสตรี โรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อและโครงสร้าง เป็นต้น และรักษาได้ทุกสิทธิสวัสดิการทั้งรักษาด้วยยา และการนวด การอบ การประคบสมุนไพร *******17 กุมภาพันธ์ 2555
View 7
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ