กระทรวงสาธารณสุข จับมือ 4 หน่วยงาน ทั้งศึกษาธิการ มหาดไทย วัฒนธรรม และสสส. เข้มงวดพื้นที่ปลอดการขาย การดื่ม และโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายทั่วประเทศอีกกว่า 70,000 แห่ง ร่วมทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และในปี 2555 นี้จะเพิ่มมาตรการทางสังคม หนุน 5 ศาสนาหลักเผยแพร่ธรรมะ หลักคำสอน โน้มน้าวจิตใจประชาชนลด ละ เลิกอบายมุขทั้งปวง
บ่ายวันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2555) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 5 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพหรือสสส. เพื่อจัดให้สถานที่ที่อยู่ในกำกับดูแลคือ บ้าน สถานที่ราชการ ศาสนสถาน เป็นพื้นที่ปลอดการขาย การดื่ม และโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมาย ผู้ร่วมลงนามประกอบด้วย นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นายเขมชาติ เทพไชย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม และทพ.กฤษฎา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสสส.
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ จัดทำเพื่อร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 ปีในพ.ศ. 2554 และพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 ปี ในพ.ศ. 2555 และเพื่อให้การบังคับใช้และปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริมการปฏิบัติตามคำสอนของทุกศาสนา โดยให้หน่วยงานดังกล่าวปฏิบัติ 2 ประการดังนี้คือ 1.จัดให้ศาสนสถาน สถานศึกษา สถานที่ราชการทุกแห่ง รวมถึงสถานที่อยู่ในกำกับดูแล ปลอดการขายและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ2.งดการโฆษณาสื่อสารการตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า การลงนามร่วม 5 หน่วยงานในวันนี้ จะทำให้มีพื้นที่ปลอดการขาย การดื่ม และการโฆษณาเหล้าเพิ่มขึ้นจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 70,000 แห่ง ทั้งศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ เทศบาล อบจ. อบต. โรงเรียน สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา อุดมศึกษา และศาสนสถานทั้ง 5 ศาสนาหลักของประเทศ ได้แก่ พุทธ อิสลาม คริสต์ พราหมณ์ฮินดู ซิกข์ และขอความร่วมมือชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ดูแลการบังคับใช้กฎหมายในหมู่บ้าน ตำบล เช่นห้ามขายเหล้าในวัน เวลาห้ามขาย ห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในปีนี้ จะเร่งขับเคลื่อนนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามแผนยุทธศาสตร์ระดับโลก และตามเจตนารมณ์ที่นานาประเทศทั่วโลกได้ประกาศร่วมกันในการประชุมนโยบายแอลกอฮอล์ระดับโลก (Global Conference on Alcohol Policy) ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งมี 4 มาตรการหลัก คือ
1.สนับสนุนสร้างความเข้มแข็งและผสมผสานมาตรการที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่ามีประสิทธิผลและความคุ้มค่าคือ การเพิ่มภาษี การจำกัดการโฆษณาสื่อสารการตลาด และการควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ง่ายเกินไปทั้งในมิติของบุคคล วันเวลา กับสถานที่ขายและการดื่ม โดยผนวกเข้าไปในกระบวนการวางแผนทางด้านสาธารณสุขและนโยบายการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ 2.มีนำเงินรายได้จากการจัดเก็บภาษีหรือการเก็บเงินพิเศษสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นำไปรณรงค์ เพื่อลดอันตรายที่เกิดจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.ส่งเสริมให้องค์กรภาคประชาสังคม ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนภาครัฐ เพื่อก่อให้เกิดนโยบายการควบคุมแอลกอฮอล์ที่มีประสิทธิผล และ4.พัฒนาและสร้างความเข้มแข็งระบบการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล ทั้งสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และความเข้มแข็งของนโยบาย
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานตามพ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ตลอด 4 ปีมานี้ พบว่าได้ผลดี เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ปัจจุบันไทยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอออล์ 12 ฉบับ เช่น กฎหมายจำกัดสถานที่-เวลาดื่ม อายุผู้ซื้อ รวมทั้งมีการรณรงค์ในช่วงเทศกาล และวันสำคัญเช่น งดเหล้าเข้าพรรษา รับน้องปลอดเหล้า ให้เหล้าเท่ากับแช่ง โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คนไทยซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงกว่า 14,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะเพิ่มการใช้มาตรการทางสังคมในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยขอความร่วมมือผู้นำศาสนาทั้ง 5 ศาสนา ให้เผยแพร่ธรรมะตามหลักคำสอนศาสนา เพื่อโน้มน้าวจิตใจให้ลด ละ เลิกอบายมุขทั้งปวง และร่วมกับ สสส. สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า รณรงค์ประชาสัมพันธ์ในกลุ่มเยาวชนและประชาชนทั่วไป ให้ตระหนักถึงโทษ พิษภัย และผลกระทบของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งในเย็นวันนี้ได้จัดกิจกรรมรณรงค์พุทธชยันตี งดเหล้าบุหรี่ทั่วไทย “ลานธรรมโน้มนำทำความดีเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวง-พระราชินี ในวโรกาสครบรอบพระชนมายุ 84 พรรษา และ 80 พรรษา” ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ประกอบด้วยการเทศนาธรรม การแสดงละครเวทีจากนักเรียนนักศึกษา บูธนิทรรศการให้ความรู้ และเกมส์ชิงรางวัล และการจัดเทียนชัยถวายพระพร และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และกำหนดจัดอีก 3ภาคในเดือนมีนาคมนี้ คือภาคเหนือที่จ.เชียงใหม่ ภาคใต้ที่จ.สงขลา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จ.ขอนแก่น
******************************* 28 กุมภาพันธ์ 2555