รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยเป้าหมายโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ยุคใหม่ ใน 4 ปีจากนี้  เน้นคุณภาพบริการ ภายในปี 2557 จะตั้งศูนย์แพทย์ใกล้บ้านใกล้ใจในเขตเมือง-ชนบทเพิ่ม 1,500 แห่ง มีหมอดูแลสุขภาพถึงครอบครัว พร้อมขยายบริการไปโรงพยาบาลเอกชน ทั้งการผ่าตัด การสำรองเตียง เพื่อลดคิวการรักษา เร่งป้องกันการเจ็บป่วยโรคเรื้อรัง ส่วนยาที่ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสิทธิ

                 วันนี้(15 มีนาคม 2555) ที่จังหวัดนครราชสีมา นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดสัมมนาอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขต(อปสข.)ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  และปาฐกถาพิเศษ ก้าวต่อไปของระบบหลักประกันสุขภาพ ใน 4 ปีข้างหน้า โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยผู้บริหาร เจ้าหน้าที่จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพเขต 7 ขอนแก่น เขต 8 อุดรธานี เขต 9 นครราชสีมา จำนวนกว่า 500 คน

 
นายวิทยา กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข สร้างหลักประกันให้กับคนทุกคนให้สามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ตามความจำเป็นและมีคุณภาพ มาตรฐานเท่าเทียมกัน ไม่ล้มละลายจากการเจ็บป่วย เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2545 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ประชาชนไทยมีหลักประกันสุขภาพครอบคลุมกว่า 63 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 99.36 ในจำนวนนี้อยู่ในสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้ามากที่สุด 47.73 ล้านคน 
 
นายวิทยา กล่าวต่อว่า การพัฒนาโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค ยุคใหม่ ใน 4 ปีจากนี้ไป จะมุ่งเน้นคุณภาพบริการ มีนโยบายพัฒนา 4เรื่อง ได้แก่ 1.มีหมอ“ใกล้บ้านใกล้ใจ”หรือหมอประจำครอบครัวทั้งในเขตเมืองและเขตชนบท ให้คำปรึกษาสุขภาพ หากเจ็บป่วยรุนแรงมีการส่งต่อไปรักษาที่เหมาะสม ในเขตชนบทจะดำเนินการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือรพ.สต. 1,000 แห่ง มีพยาบาลวิชาชีพครบทุกตำบลอย่างน้อย 1 คน ส่วนในเขตเมืองตั้งเป้า 500 แห่ง ภายในปี 2557 โดยดึงคลินิกชุมชนอบอุ่น ศูนย์บริการสาธารณสุของค์กรปกครองท้องถิ่น และโรงพยาบาลขนาดเล็กของภาครัฐและเอกชน ร่วมเป็นหน่วยบริการประจำครอบครัว
 
2.มียาดีใช้เพียงพอ เพื่อให้ประชาชนได้รับยาดี ที่จำเป็น เหมาะสมกับความเจ็บป่วย ทั้งยารักษาโรคทั่วไปและยาที่ราคาสูง ทุกสิทธิการรักษาไม่แตกต่างกัน สนับสนุนให้ใช้การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ทั้งการนวดรักษา ประคบหลังคลอด เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี จะพัฒนายาสมุนไพรเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ ไม่น้อยกว่า 100 ตัว ตั้งศูนย์บริการการแพทย์แผนไทย มีแพทย์แผนไทยประจำ 200 แห่งและร้อยละ 50 ของรพ.สต.มีบริการแพทย์แผนไทยพื้นฐาน 3.ให้บริการผู้ป่วยรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอรักษานาน การลดคิวรักษาโรคสำคัญ เช่นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง มีบริการทางด่วนผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดและหลอดเลือดสมองตีบ เพิ่มห้องตรวจโรค ขยายเวลาบริการ เพิ่มคลินิกนอกเวลา เพิ่มเครือข่ายเอกชนเข้าร่วมบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เพิ่มการผ่าตัดในโรงพยาบาลเอกชนกรณีไม่เร่งด่วนและมีศูนย์สำรองเตียงโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้น
 
4.เร่งรัดการสร้างสุขภาพ เพื่อลดอัตราป่วย ตาย และผลกระทบจากโรคเรื้อรังต่างๆ ตั้งเป้าคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ความดันโลหิตสูงร้อยละ 80 สร้างเสริมสุขภาพเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ โดยสนับสนุนงบประมาณสร้างเสริมสุขภาพให้หน่วยบริการและกองทุนตำบล เด็กแรกเกิด - 5 ปีทุกคนจะได้รับการคัดกรองภาวะขาดไอโอดีน ได้รับวัคซีนพื้นฐานครบเกณฑ์ และได้รับการดูแลช่องปากป้องกันฟันผุ ผู้หญิงได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ผู้สูงอายุ 2.1ล้านคนและใส่ฟันเทียมทั้งปาก 4.5 หมื่นคน ตั้งกองทุนฟื้นฟูสุขภาพผู้พิการ ผู้สูงอายุที่ช่วยตนเองไม่ได้อย่างน้อย 12 จังหวัด โดยดำเนินการร่วมกับท้องถิ่น
 
**************************** 15 มีนาคม 2555


   
   


View 13    15/03/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ