กระทรวงสาธารณสุข ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรีพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ มุ่งสู่การปั้นเด็กไทยคุณภาพ มีคุณสมบัติ ดียกกำลังสาม คือสุขภาพกาย-ใจ ดี ไอคิวดีไม่น้อยหน้าเด็กสากล และมีอีคิวดี โดยดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนกระทั่งหลังคลอด การเตรียมความรู้ให้พ่อ-แม่ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 6 เดือน ตรวจคัดกรองป้องกันแก้ไขความผิดปกติแต่เนิ่นๆ และพัฒนาคุณภาพศูนย์เด็กเล็กกว่า 20,000 แห่ง ให้ผ่านมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่

            วันนี้ (16 มีนาคม 2555) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล  นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมปฏิบัติการด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามนโยบายนายกรัฐมนตรี โดยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมพิธีประกาศปฏิญญา การศึกษาไทยไม่ทอดทิ้งใคร สังคมไทยไม่ทอดทิ้งกันและกล่าวพันธกิจของกระทรวงสาธารณสุขในการพัฒนาเด็กปฐมวัย ร่วมกับ 8 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศึกษาธิการ มหาดไทย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แรงงาน วัฒนธรรม อุตสาหกรรม กลาโหม และยุติธรรม
 
            นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการสนองนโยบายนายกรัฐมนตรี ในการพัฒนาเด็กปฐมวัยอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปี เริ่มดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา หลังคลอด และการเลี้ยงดู ซึ่งแต่ละปีมีหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 800,000 คน ตั้งเป้าหมายให้เด็กไทยทุกคนที่เกิดในประเทศ่ไทยมีสุขภาพแข็งแรง ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ หรือเรียกว่า ดียกกำลังสาม คือมีสุขภาพดี พัฒนาการสมวัย มีระดับเชาวน์ปัญญาหรือไอคิวดี ไม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานสากลคือ 100 จุด มีความฉลาดทางอารมณ์หรืออีคิวดี  เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีต้นทุนสุขภาพสูง
 
            นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ในการดำเนินการดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุข จะดูแลหญิงตั้งครรภ์ เพื่อให้คลอดเด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักมากกว่า 2,500 กรัม  โดยรณรงค์ให้ฝากครรภ์ตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัวให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ มีการคัดกรองความเสี่ยงต่อสุขภาพมารดาและทารก เช่น เอชไอวี ธาลัสซีเมีย ส่งเสริมด้านอาหารและโภชนาการ ให้กินยาเม็ดไอโอดีนจนถึงระยะ 6 เดือนหลังคลอด เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเป็นโรคเอ๋อหรือโรคขาดสารไอโอดีนซึ่งเป็นสาเหตุให้ระดับสติปัญญาต่ำกว่าปกติ และตรวจเลือดเด็กแรกเกิดทุกรายหาความผิดปกติการขาดฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อรักษาอย่างทันท่วงที รวมทั้งให้ความรู้พ่อแม่มือใหม่ในการดูแลลูกมีคุณภาพ โดยใช้กระบวนการโรงเรียนพ่อแม่ คลินิกฝากครรภ์ คลินิคสุขภาพเด็กดีในโรงพยาบาล และในศูนย์เด็กเล็ก
 
            ในส่วนของเด็กแรกเกิดจนถึง 2 ปี ให้ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่อย่างต่อเนื่อง โดยจะสนับสนุนการอนุญาตให้แม่ลาคลอดตามที่กฎหมายกำหนดคือ 3 เดือน และจะผลักดันการแก้ไขกฎหมายให้ลาได้ถึง 6 เดือน เพื่อสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน รวมทั้งให้พ่อลาตามกฎหมายเพื่อช่วยเลี้ยงลูก และส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวจนถึง 6 เดือน จากนั้นได้รับอาหารตามวัยควบคู่กับนมแม่ โดยจะผลักดันให้มีกฎหมายด้านอาหารทารกและเด็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งสนับสนุนให้สถานที่ทำงาน มีมุมนมแม่ เพื่อให้แม่ได้เก็บน้ำนมให้ลูกกินที่บ้านอย่างต่อเนื่อง ดูแลมาตรฐานการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้เด็กไม่ขาดสารไอโอดีนซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยเพิ่มระดับสติปัญญา  
 
            นอกจากนี้ จะส่งเสริมสนับสนุนศูนย์เด็กเล็กซึ่งมีทั้งสิ้น 20,043 แห่งทั่วประเทศ ให้ได้มาตรฐานศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่ มีอุปกรณ์การเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ความรู้ ส่งเสริมพัฒนาการและสติปัญญา คัดกรองการมองเห็นและสายตา ดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ดูแลให้ได้รับวัคซีนพื้นฐานครบถ้วนจนเข้าสู่ระบบโรงเรียน ส่วนเด็กกลุ่มเสี่ยงทั้งที่เจ็บป่วย พิการ ถูกทอดทิ้ง เด็กด้อยโอกาสและเด็กต่างด้าว จะได้รับการคัดกรองตั้งแต่เริ่มต้น และให้การดูแล บำบัดและฟื้นฟูต่อเนื่องด้วย                                                                                                                                                    
                                                                                                                                                              ****************** 16 มีนาคม 2555
 


   
   


View 6       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ