“ปลัด สธ.” กำชับโรงหมอรอบๆ กทม. ปริมณฑล พร้อมรับอุบัติเหตุขากลับเต็มพิกัด

                ปลัด กระทรวงสาธารณสุข ห่วงอุบัติเหตุขากลับฉลองสงกรานต์ ให้โรงพยาบาล รอบกทม.และปริมณฑล เตรียมพร้อมรับมือเต็มพิกัด ทั้งทีมกู้ชีพ แพทย์ พยาบาล คลังเลือด ห้องผ่าตัด เนื่องจากคนขับรถมักจะฝืนขับทั้งๆที่ง่วงหรือเพลียเต็มที่เพราะคิดว่าอีกนิด เดียวก็ถึงจุดหมาย ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แนะวิธีป้องกันให้พักผ่อนให้เพียงพอ งดดื่มสุรา คาดเข็มขัด-สวมหมวกนิรภัย ไม่ดื่มสุราระหว่างขับรถ ไม่ขับรถเร็ว

นาย แพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ในวันที่ 15-16 เมษายน 2555 เป็นวันที่ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับไปจากการไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ ปัญหาที่น่าห่วงในช่วงขากลับคือ อาการอ่อนเพลียจากการพักผ่อนน้อยซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการหลับในระหว่างขับรถ บางคนขับด้วยความเร่งรีบอยากถึงบ้านเร็ว ได้กำชับให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่อยู่ในเส้นทางหลัก ใกล้ๆ กทม. ให้เตรียมความพร้อมทุกอย่าง ทั้งบุคลากร แพทย์ พยาบาล ทีมกู้ชีพ คลังเลือด อ็อกซิเจน ห้องผ่าตัด สำรองเตียงไว้ เนื่องจากเป็นจุดที่ผู้เดินทางจะอ่อนล้าจากการขับรถทางไกล บางส่วนคิดว่าอีกนิดเดียวก็ถึงจุดหมาย มักจะฝืนขับทั้งๆ ที่ง่วงหรือเพลียเต็มที่ ทำให้เกิดอุบัติได้ง่ายและพบได้ทุกปี 

              และขอย้ำเตือนให้ผู้ที่ต้องทำหน้าที่ขับรถ ให้พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทางกลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมง งดดื่มสุรา คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกนิรภัยทั้งคนขับและคนซ้อน ไม่ดื่มสุราระหว่างขับรถ ไม่ขับรถเร็ว ควรมีเพื่อนพูดคุยระหว่างเดินทาง ควรหยุดพักทุกๆ 150 กิโลเมตร หรือทุก 2 ชั่วโมง และเมื่อรู้สึกง่วง และขอความร่วมมือผู้โดยสารมากับรถให้ร่วมกันสังเกตอาการของคนขับ หากมีสัญญาณว่าง่วง เช่น หาวนอนบ่อย เหยียบเบรกบ่อยๆ ใจลอยมองไม่เห็นป้ายสัญญาณจราจร ขับรถส่ายไปส่ายมา เป็นต้น ขอให้จอดรถในที่ปลอดภัย และนอนพักหรือเปลี่ยนคนขับแทน จะทำให้การเดินทางถึงบ้านอย่างปลอดภัย

        ด้านนายแพทย์ศักดิ์ชัย นิลวัชรารัง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ผู้บาดเจ็บที่รับไว้รักษาโรงพยาบาล 35 ราย พบว่าการบาดเจ็บในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้รุนแรง โดยอาการหนักจากการบาดเจ็บที่อวัยวะหลายระบบถึงร้อยละ 54  รองลงมากระดูกแขน-ขาหัก ร้อยละ 23 ต้องได้รับการผ่าตัดมากถึงร้อยละ 54 ส่วนผู้บาดเจ็บที่มาที่ห้องฉุกเฉินมีประมาณวันละ 180 ราย เป็นผู้บาดเจ็บจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 85 และไม่คาดเข็มขัดนิรภัยร้อยละ 75 ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว ส่วนปัญหาเมาแล้วขับ พบลดลงเหลือร้อยละ 34 จากเดิมร้อยละ 76 ในปี 2554 เนื่องจากมีการเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะบนถนนในหมู่บ้าน/ชุมชน       

 ********************************* 15 เมษายน 2555