รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขขันน็อตระบบยาและเวชภัณฑ์ทั้งยาทั่วไปและยาควบคุมพิเศษ ในโรงพยาบาลในสังกัดกว่า 800 แห่งด้วยมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด ให้ทุกสถานพยาบาลทำแผนประมาณการใช้ยาที่เป็นวัตถุออกฤทธิ์ทุกชนิดล่วงหน้าส่งอย. ให้อย.ดำเนินการ 3 มาตรการเร่งด่วนควบคุมยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯทั้งระบบการจ่ายในสถานพยาบาลและของบริษัท โควตาการผลิตในอนาคต นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของปัญหาการรั่วไหลของยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนออกจากโรงพยาบาลในสังกัดว่า มาตรการเร่งด่วนในการควบคุมยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน(Pseudoephedrine)หลังจากที่ออกประกาศควบคุมยาดังกล่าวเป็นวัตถุออกฤทธิ์เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2555 ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรืออย.ดำเนินการ 3 เรื่องดังนี้ 1.จัดระบบรองรับยาส่งคืนจากร้านขายยา สถานบริการ ที่ไม่ประสงค์จะครอบครองยาตรวจสอบยอดคงเหลือเพื่อเข้าสู่ระบบการจ่ายยาวัตถุออกฤทธิ์ 2.จัดระบบจำหน่ายยาที่คงเหลือในทุกบริษัทให้แก่สถานบริการที่มีประกาศครอบครองการใช้ยาที่เป็นวัตถุออกฤทธิ์ โดยให้ทุกสถานพยาบาลทำแผนและประมาณการใช้ยาล่วงหน้ามาที่อย. และเมื่อมีใบสั่งซื้อไปที่บริษัท จะมีระบบบันทึกการรายงานเพื่อการดำเนินการตรวจสอบ และเรื่องที่ 3.การจัดระบบยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดฯของประเทศให้ชัดเจนทั้งจำนวน สูตรตำรับยาที่จะผลิตในอนาคต และการมอบหมายบริษัทผู้ผลิต เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อการใช้ และสามารถตรวจสอบได้ทันที นายวิทยากล่าวต่อว่าผลการตรวจสอบระบบการบริหารยาและเวชภัณฑ์ยาในโรงพยาบาลทุกระดับที่อยู่ในสังกัดกว่า 800 แห่งทั่วประเทศพบว่าร้อยละ 99 มีระบบการควบคุมที่เข้มแข็ง และปฏิบัติตามกรอบที่กระทรวงสาธารณสุขได้วางไว้ตั้งแต่พ.ศ.2530 ทั้งยาทั่วไปและยาควบคุมพิเศษ มีปัญหาเพียง 8 แห่งเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 1 ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อยมาก และจะดำเนินการด้านวินัยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมวางระบบป้องกันในอนาคต ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นใจในศักยภาพระบบบริการ ซี่งจะมีการพัฒนาประสิทธิภาพกลไกการบริการให้มากขึ้นต่อไปเรื่อยๆเพื่อให้เป็นสถานบริการที่ใกล้บ้านใกล้ใจประชาชน ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิตปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ปฏิบัติตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการควบคุมค่าใช้จ่ายของยาและเวชภัณฑ์เป็นพิเศษ และมีหนังสือกำชับให้โรงพยาบาลทุกแห่งจัดทำแผนการใช้จ่ายเรื่องยาและเวชภัณฑ์ของโรงพยาบาล และให้กำกับดูแลการบริหารจัดการเวชภัณฑ์ ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเข้มงวด โดยบริหารในรูปของคณะกรรมการเภสัชกรรมและการบำบัด มีเจ้าหน้าที่หลายวิชาชีพเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้การบริหารกรณีของยาและเวชภัณฑ์ทั่วไป ให้ทุกโรงพยาบาล เสนอขออนุมัติการจัดซื้อตามระเบียบพัสดุ จัดระบบการจัดซื้อ จัดหา ระบบการตรวจรับ ระบบการควบคุม การเก็บรักษาป้องกันการเสื่อมสภาพหรือหมดอายุ การเบิกจ่าย การสั่งใช้ตามคำสั่งแพทย์ การตรวจสอบและการรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ส่วนกรณียาที่จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทและยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 ที่ใช้ในโรงพยาบาล การบริหารให้ใช้ระบบเดียวกันกับยาทั่วไป กรณียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ต้องสั่งซื้อจากอย.และกรณีของวัตถุออกฤทธิ์ฯประเภท 2 ต้องส่งคำขอซื้อพร้อมหลักฐานการขอซื้อไปที่บริษัท สำหรับยาที่ส่งมาโดยไม่มีการออกใบสั่งซื้อ ให้แจ้งบริษัทและส่งคืนทันที และมีการลงนามการรับยาคืน มีระบบรายงานการใช้ยา ผู้สั่งใช้ยาชัดเจน และรายงานการใช้ประจำเดือนประจำปีที่อย.และให้รายงานการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ทั้ง 2 ประเภทประจำเดือนเข้าส่วนกลาง ****************** 29 เมษายน 2555


   
   


View 12    29/04/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ