สธ.จับมือสปสช.และอภ.ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ให้ประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มเสี่ยง ทุกสิทธิฟรี จำนวน 3.55ล้านคน ใช้งบกว่า 500 ล้านบาท ดีเดย์ฉีดพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 1 มิถุนายนถึง 30 กันยายน 2555 ที่สถานพยาบาลของของรัฐและเอกชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  เพื่อป้องกันการเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล 3 สายพันธุ์

วันนี้(31พฤษภาคม 2555)ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สมชัย นิจพานิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสปสช. นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ร่วมกันแถลงข่าวว่า ในปี 2555 นี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกับสปสช. และองค์การเภสัชกรรม จัดโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประจำปี 2555 เพื่อฉีดให้กลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มฟรี ได้แก่ 1.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง มะเร็งที่กำลังรับเคมีบำบัด เบาหวาน ธาลัสซีเมีย และภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ 2.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
 
3.ผู้มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม 4.ผู้พิการทางสมองช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ 5.เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี 6.หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป และ7.บุคลากรทางการแพทย์เจ้าหน้าที่ที่ให้การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดสัตว์ปีก รวมทั้งหมด 3,550,000คน ซึ่งได้ขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นจากปี 2554 จำนวน 1 ล้านคน
 
โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณของสปสช.กว่า 500ล้านบาท ให้บริการฉีดที่โรงพยาบาลภาครัฐ และเอกชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เริ่มพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1มิถุนายน เป็นต้นไปจนถึง 30 กันยายน 2555สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สายด่วน สปสช. โทร.1330
 
นายวิทยากล่าวต่อว่า โรคไข้หวัดใหญ่ มักระบาดในช่วงหน้าฝนถึงฤดูหนาว ปัจจุบันประชาชนจะมองโรคนี้ว่าเป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่สำหรับคนกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรังนั้น หากป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ แทรกซ้อน จะมีความเสี่ยงต่อชีวิตมาก ซึ่งในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 7-9แสนราย ในจำนวนนี้มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม ต้องรับไว้โรงพยาบาล 12,575 75,801รายต่อปี อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีภาวะแทรกซ้อนอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลปีละ 913 2,453 ล้านบาท ดังนั้นแนวทางป้องกันที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ในปีนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -14 พฤษภาคม 2555 ทั่วประเทศมีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 11,380 ราย ไม่มีเสียชีวิต  
 
นายวิทยากล่าวต่อไปว่า เมื่อประชาชนกลุ่มดังกล่าวข้างต้น ได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ก็จะลดการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่หรือภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้ คนไข้และญาติก็ไม่ต้องเสียเวลา ค่าใช้จ่ายมาหาหมอ ไม่ต้องมีการตรวจรักษาหรือจ่ายยา และไม่มีค่าเดินทางมาโรงพยาบาล ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขณะที่ภาครัฐก็ลดภาระการรักษาพยาบาลลงได้เช่นกัน ทั้งนี้ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ฉีดในปีนี้ เป็นวัคซีนรวม 3 สายพันธุ์ คือชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1(A H1N1) ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2 (A H3N2) และชนิดบี (B) ซึ่งเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่พบบ่อยในไทยและทั่วโลก และวัคซีนยังใช้ได้ผลดี เนื่องจากเชื้อไม่มีปัญหากลายพันธุ์
                            *********************** 31 พฤษภาคม 2555 


   
   


View 15    31/05/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ