รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้สถานบริการสาธารณสุขใน 5 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังและเตรียมเครื่องมือเวชภัณฑ์พร้อมให้การดูแลผู้ป่วยจากการสูดควันไฟป่า โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่ม คือผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจ ผู้สูงอายุ และเด็ก ส่งหน้ากากอนามัย 60,000 ชิ้น และสำรองส่วนกลางอีก 50,000 ชิ้น สถานการณ์การเจ็บป่วยขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ

จากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้มีหมอกควันไฟป่าพัดปกคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส หนาแน่น และอาจส่งผลกระทบกับสุขภาพประชาชนนั้น   ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว วันนี้ (2 กรกฎาคม 2555) นายวิทยา  บุรณศิริ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สถานบริการสาธารณสุขใน 5 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่โรงพยาบาลศูนย์จนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ได้สั่งการให้เตรียมเครื่องมือเวชภัณฑ์ในการดูแลผู้ป่วย และเฝ้าระวังผู้เจ็บป่วยจากการสูดควันไฟป่า โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่มีความเสี่ยงจะเกิดอาการหลังสูดละอองควันไฟ เช่น ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคภูมิแพ้ หอบหืด ผู้สูงอายุและเด็ก ได้สั่งการให้สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ส่งหน้ากากอนามัยให้ 5 จังหวัด จังหวัดละ 12,000 ชุด เพื่อแจกจ่ายประชาชนใส่ป้องกัน และให้กรมควบคุมโรค สำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 50,000 ชุด เนื่องจากคาดว่า สถานการณ์นี้จะยังไม่ยุติง่าย

          ด้านนายแพทย์สุวิช ธรรมเปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ค่าฝุ่นละอองในพื้นที่ 5 จังหวัดขณะนี้ยังไม่เกินมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ปริมาณของฝุ่นละอองใน 5 จังหวัดมากน้อยขึ้นอยู่กับทิศทางลมและปริมาณฝนที่ตกลงมา จากการเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจในโรงพยาบาลขนาดเล็กและใหญ่ พบว่ายังไม่ส่งผลกระทบชัดเจน เฉลี่ย 50-100 คนต่อวันต่อแห่ง ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ เนื่องจากในฤดูฝนมีผู้ป่วยเป็นหวัดอยู่แล้ว          ทั้งนี้ ผลการสูดฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดอาการของระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่อาการเล็กน้อย เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก จนถึงอาการรุนแรง เกิดอาการเจ็บหน้าอก หลอดลมอักเสบ ในรายที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว เมื่อเกิดหลอดลมอักเสบหรือปอดบวม จะทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นจนอาจเกิดหัวใจวายได้   

นายแพทย์สุวิชกล่าวต่อว่า ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอาการหลังสูดฝุ่นละอองควันไฟ ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษมี 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่นโรคกล้ามเนื้อหัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจวาย  2.โรคระบบทางเดินหายใจทุกชนิด เช่น โรคปอดบวม โรคภูมิแพ้ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด 3.ผู้สูงอายุ เนื่องจากมักมีประจำตัวเช่นโรคหัวใจและโรคปอดแฝงอยู่มาก  และ4.เด็ก เพราะมีการเคลื่อนไหวมาก อัตราหายใจสูง ร่างกายกำลังเติบโต หากเกิดอาการแน่นหน้าออก หายใจลำบาก ขอให้ไปพบแพทย์  

          ในการป้องกันไม้ให้สูดฝุ่นละอองควันไฟเข้าสู่ร่างกาย ประชาชนไม่ควรออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง และให้อยู่ในบ้าน โดยปิดหน้าต่าง ปิดประตู ด้านที่รับลม ซึ่งพัดหมอกควันลอยเข้าสู่ภายในบ้าน และเปิดทางด้านตรงข้ามกับทิศทางลม กลั้วคอด้วยน้ำสะอาดแล้วบ้วนทิ้งวันละ 3-4 ครั้ง งดการสูบบุหรี่ และควรดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อขับฝุ่นละอองออกจากร่างกาย หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้ใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดจมูก สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและทางเดินหายใจ ควรอยู่ในบ้าน  เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม  นายแพทย์สุวิชกล่าว

 ****************************** 2 กรกฎาคม 2555

 

 



   
   


View 14    02/07/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ