กระทรวงสาธารณสุข เผยขณะนี้ผู้สูงอายุไทยมีสุขภาพดีน้อยมาก พบแค่ 9 แสนคนหรือ 1 ใน 10 ไม่มีโรคประจำตัวเลย โดยอีกร้อยละ 87 หรือเกือบ 6 ล้านคนมีเป็นโรคประจำตัวมากกว่า 1 โรค ซึ่งเป็นโรคสะสมมาตั้งแต่อยู่ในวัยกลางคน เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เร่งจัดระบบดูแล ปีนี้นำร่องตั้งศูนย์ต้นแบบดูแลสุขภาพผู้สูงอายุใน 14 จังหวัด วันนี้ (20 เมษายน 2550) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางจุรีภรณ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ นายกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข เปิดสัมมนาส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ โดยมีสมาชิกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข 76 จังหวัด นักวิชาการ และอสม. ที่จะเป็นผู้ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุประมาณ 250 คน ร่วมระดมความคิดเห็นจัดทำคู่มือสำหรับผู้สูงอายุ ในการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความเป็นอยู่และสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 11 หรือ 6.8 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดอีก 15 ปีจะเพิ่มเป็น 10.8 ล้านคนหรือร้อยละ 16 โดยกว่าร้อยละ 90 มีอายุ 60-79 ปี จากการตรวจสุขภาพของผู้สูงอายุครั้งใหญ่ทั่วประเทศล่าสุดเมื่อปี 2547 พบมีผู้สูงอายุเพียง 1 ใน 10 หรือประมาณ 9 แสนคนเท่านั้นที่มีสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัวเลย โดยมีร้อยละ 87 หรือเกือบ 6 ล้านคน ที่ตรวจพบว่ามีโรคประจำตัวมากกว่า 1 โรค ซึ่งเป็นโรคที่สะสมมาตั้งแต่ในวัยกลางคนคืออายุ 45 ปีขึ้นไป รักษาแล้วไม่หายขาด ที่สำคัญได้แก่ โรคความดันโลหิตสูงพบร้อยละ 51 เบาหวานพบร้อยละ 13 และพบเป็นทั้ง 2 โรคพร้อมกันร้อยละ 8 โดยมีผู้สูงอายุร้อยละ 6 ที่อยู่คนเดียวโดยลำพัง นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า การจัดระบบการดูแลผู้สูงอายุทั้งในปัจจุบันและอนาคต กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้จัดตั้งคลินิกวัยทองในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป เพื่อส่งเสริมสุขภาพประชาชนทั้งชายหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป ในการดูแลสุขภาพไม่ให้เสื่อมเร็ว ที่ผ่านมาดำเนินการไปแล้วร้อยละ 30 ปีนี้จะเพิ่มอีกร้อยละ 50 ส่วนผู้สูงอายุมีนโยบายตั้งชมรมผู้สูงอายุทุกตำบล เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกายขณะนี้มีแล้วเกือบ 10,000 ชมรม สมาชิกประมาณ 9 แสนคน และสนับสนุนให้มีวัดส่งเสริมสุขภาพ โดยจัดอบรมพระภิกษุให้ความรู้ดูแลผู้สูงอายุ ดำเนินการในปีที่ผ่านมาจังหวัดละ 2 แห่งในปีนี้จะเพิ่มอีก 1,200 แห่ง ส่วนผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย ได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่ง จัดคลินิกบริการผู้สูงอายุเป็นการเฉพาะเป็นกรณีพิเศษ จัดสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภค เช่น ทางเดินลาด รถเข็น และห้องน้ำสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ จากการประเมินผลพบว่าผู้สูงอายุพอใจเป็นอันมาก เนื่องจากไม่ทำให้ลูกหลานเสียเวลารอนาน ทางด้านนางจุรีภรณ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ นายกสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข กล่าวว่า ในปีนี้ สมาคมแม่บ้านสาธารณสุข มีนโยบายพัฒนาและจัดตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุใน 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร นครสวรรค์ ปทุมธานี นนทบุรี สระบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี สิงห์บุรี ตราด นครราชสีมาและอุบลราชธานี เป็นศูนย์ต้นแบบของทั่วประเทศ แต่ละศูนย์จะทำงานร่วมกันระหว่าง อบต. องค์กรเอกชน สาธารณสุข แกนนำผู้สูงอายุและ อสม. เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสถานที่จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและฟื้นฟูสภาพในตอนกลางวัน ตามความต้องการของผู้สูงอายุ ซึ่งจะทำให้ท้องถิ่นต่างๆ มีความเข้มแข็งในการพัฒนาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น และจัดทำคู่มือสำหรับผู้สูงอายุในการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง 2,000 เล่ม โดยสมาชิกแม่บ้านสาธารณสุขจะนำคู่มือนี้ไปฝึกอบรมแก่ อสม. ที่จะเป็นผู้ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแต่ละจังหวัดต่อไป ************************ 20 เมษายน 2550


   
   


View 13    20/04/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ