กระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่นให้แก่ชาวไทยมุสลิมจำนวน 13,000-16,000 คน ที่จะเดินทางไปแสวงบุญพิธีฮัจย์  ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประจำปี 2555 ฟรี ตั้งแต่ 11 กรกฎาคม -31 สิงหาคม 2555 และเปิดโรงพยาบาลชั่วคราวขนาด 20 เตียง พร้อมหน่วยแพทย์ไทย 35 คน เครื่องมือแพทย์  ยา เวชภัณฑ์ ดูแลสุขภาพระหว่างประกอบพิธีฮัจย์ตลอด 3 เดือนด้วย 

          วันนี้ (11 กรกฎาคม 2555) ที่ศูนย์บริหารกิจการอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เขตหนองจอก กทม.   นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายอาศิส  พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี  เปิดโครงการป้องกันและสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคติดต่อ เตรียมความพร้อมชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปแสวงบุญพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประจำปี 2555 โดยมีชาวไทยมุสลิมในเขตกทม. และปริมณฑลร่วมงาน  1,900 คน 

          นายวิทยากล่าวว่า ในปี 2555 นี้ มีชาวไทยมุสลิมจะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประมาณ 13,000 - 16,000 คน กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบการดูแลสุขภาพไว้ 3 ส่วน ประกอบด้วย 1. ช่วงก่อนเดินทางกรมควบคุมโรคได้จัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)และโรคไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal meningitis) ตามที่ทางการซาอุฯกำหนดให้ฟรี ซึ่ง 2 โรคนี้เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ มีโอกาสเกิดขึ้นได้เมื่อมีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เพราะในแต่ละปีมีชาวมุสลิมจากหลายเชื้อชาติทุกภูมิภาคทั่วโลกไปประกอบพิธีฮัจย์ประมาณ 3 ล้านคนและต้องอาศัยอยู่รวมกันเป็นเวลานานนับเดือน ในปีนี้ได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดที่อยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดคลินิกฮัจย์ เพื่อตรวจสุขภาพ เช่นตรวจเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และดูแลยาของผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้พร้อมก่อนเดินทาง 

            2.ระหว่างประกอบพิธีฮัจย์ ประมาณ 3 เดือน กระทรวงสาธารณสุขได้จัดส่งหน่วยแพทย์พยาบาลไทย  จำนวน 3 ทีม รวมทั้งสิ้น 35 คน ประกอบด้วย แพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมเครื่องมือแพทย์ เช่น เครื่องตรวจหัวใจ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า ยา เวชภัณฑ์จำเป็น โดยตั้งเป็นโรงพยาบาลชั่วคราวขนาด 20 เตียง ที่เมืองมักกะห์ เมืองมาดีนะ ทุ่งมีนา และเมืองอาระฟะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย  ให้บริการตรวจรักษาแบบผู้ป่วยนอกและฉุกเฉิน ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค โดยประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลของประเทศซาอุดิอาระเบีย  ปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 16 กันยายน 2555 - 30 พฤศจิกายน 2555    และ3. ช่วงหลังกลับจากการประกอบพิธีฮัจย์ ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เฝ้าระวังโรคติดต่ออย่างน้อย 2 สัปดาห์

          ทางด้านนายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ชาวไทยมุสลิม ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการศาสนาแล้ว สามารถรับบริการวัคซีนฟรี ได้ที่สถาบันบำราศนราดูร ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเรือกรุงเทพ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย โรงพยาบาลนวมินทร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จังหวัดสงขลา นราธิวาส โดยเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2555 เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2555

          ทั้งนี้ ในปี 2554 มีผู้รับบริการที่หน่วยแพทย์ไทย จำนวน 18,141 คน เฉลี่ยวันละ 546 คน ผู้ป่วยร้อยละ 72 เป็นโรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด มีผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาล 242 ราย  เสียชีวิต 13 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากโรคหัวใจวายเฉียบพลัน และโรคหลอดเลือดสมอง8

********** 11  กรกฎาคม 2555      



   
   


View 16    11/07/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ