รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคมือเท้าปากไทย อาจจะพบผู้ป่วยได้ต่อไปอีก 1-2 เดือนเนื่องจากเป็นฤดูกาลระบาดและอยู่ในช่วงเปิดเทอม ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เข้มมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันร่วมกับโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศ รวมทั้งกทม. ขอความร่วมมือผู้ปกครอง หากมีลูกหลานป่วย ขอให้เด็กหยุดอยู่บ้าน 5-7 วัน หรือจนหายป่วย ไม่ควรพาไปห้าง สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ  ตลาด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย และหากเด็กมีอาการผิดปกติ เช่นไข้สูงต่อเนื่อง 3 วัน มีอาการซึม  อาเจียน หอบ ให้พาไปพบแพทย์         

          นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของโรคมือเท้าปากว่า ขณะนี้ได้ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญ ของกรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์ในภาพรวมทั่วประเทศทุกวัน  จากการวิเคราะห์พบว่าแนวโน้มการป่วยจะมีต่อเนื่องไปอีก 1-2 เดือน มีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายในหลายจังหวัด เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูฝนและเปิดเทอม เชื้อไวรัสที่เป็นต้นเหตุที่พบบ่อยมี 2 ตัวคือ คอกซากี่กลุ่มเอ,บี และเอนเทอโรไวรัส 71 ( Enterovirus 71) ซึ่งชอบอากาศเย็นชื้นอยู่แล้ว ได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ จัดระบบการเฝ้าระวัง ร่วมกับพื้นที่เสี่ยงได้แก่ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนประถมศึกษา และประสานกทม. และเมื่อพบเด็กป่วยโรคมือเท้าปาก 10 รายขึ้นไป หรือเป็นกลุ่มก้อนให้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดโดยเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง และขอยืนยันว่ามาตรการปิดโรงเรียนเป็นระบบการควบคุมป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่เด็กเล็ก ซึ่งต่อจากนี้ไปอาจจะมีการปิดเรียนได้ตามความจำเป็น ขอให้ประชาชนไม่ต้องตกใจแต่อย่างใด
          สถานการณ์ของโรคมือเท้าปาก จนถึงวันที่ 11 ก.ค.2555 ทั่วประเทศมีรายงานทั้งหมด 12,581 ราย ไม่มีเสียชีวิต พบได้ทุกอายุ แต่ที่มากที่สุด คือ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี พบภาคกลางมากที่สุด จำนวน 4,354 ราย รองลงมาคือภาคเหนือ 3,523 ราย ภาคใต้ 2,556 ราย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2,418 ราย อัตราการพบผู้ป่วยรายใหม่ในปลายเดือนมิถุนายน เฉลี่ยวันละ 80-100 ราย เริ่มมีแนวโน้มชะลอในบางพื้นที่แต่จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในเขตเมืองใหญ่ได้
          ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว่า ขอความร่วมมือศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนระดับประถมศึกษาทุกแห่ง ดูแลความสะอาดอุปกรณ์ภายในโรงเรียน สนามเด็กเล่น อุปกรณ์การเรียนการสอน และตรวจคัดกรองอาการเจ็บป่วยของเด็ก โดยเฉพาะไข้ ซึ่งเป็นสัญญาณแรกของอาการป่วยโรคนี้ รวมทั้งสังเกตตุ่มขึ้นที่มือ เท้า ในปากเด็กทุกวัน หากพบให้แยกเด็กและให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อดำเนินการควบคุมโรคทันที ในส่วนของผู้ปกครองขอให้ดูแลเด็กที่ป่วยอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะในช่วง 3-4 วันแรก หากไข้ไม่ลงและเด็กมีอาการซึม อาเจียน หรือหายใจหอบ ขอให้รีบพาไปพบแพทย์ ขณะนี้โรงพยาบาลทุกแห่ง สามารถดูแลรักษาเด็กที่เป็นโรคมือเท้าปาก ได้ โรคนี้หากพบผู้ป่วยได้เร็ว รักษาเร็ว และถูกต้อง ก็จะป้องกันการเสียชีวิตได้ 
          ขณะเดียวกันเด็กที่ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก แม้ว่าส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรงก็ตาม ขอให้เด็กหยุดพักอยู่บ้านจริงๆ เป็นเวลา 5-7 วัน หรือจนหายเป็นปกติ ไม่ควรให้เด็กไปคลุกคลี หรือใช้สิ่งของร่วมกับเด็กอื่น เช่น         ของเล่น คอมพิวเตอร์ รวมทั้งผู้ปกครองไม่ควรพาเด็กป่วยไปตลาด แหล่งชุมชน สนามเด็กเล่น และห้ามลงไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำเพื่อป้องกันเชื้อแพร่กระจาย และขอความร่วมมือผู้ประกอบการด้านสระว่ายน้ำ ซึ่งมักอยู่ในเขตพื้นที่เขตเมือง ขอให้ดูแลความสะอาดและตรวจวัดมาตรฐานคลอรีนให้ตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด คือ อย่างน้อยต้องมีความเข้ม 1 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นปริมาณเพียงพอที่จะทำลายเชื้อได้ 
***************************** 17 กรกฎาคม 2555


   
   


View 11    18/07/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ