รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีแม่ลูกเสียชีวิตขณะคลอดที่รพ.ลำลูกกา เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต เบื้องต้นคาดสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากภาวะน้ำคร่ำหลุดเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งพบได้น้อยแต่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ส่วนใหญ่มักเสียชีวิต ไม่มีวิธีป้องกันหรือรู้ล่วงหน้า
จากกรณีข่าวนายบุญมี จันทหาร ร้องเรียนโรงพยาบาลลำลูกกา จ.ปทุมธานี ทำให้ภรรยาและบุตรในครรภ์เสียชีวิตขณะรอคลอด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2555 นั้น ความคืบหน้าในวันนี้ (10 กันยายน 2555) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับนายบุญมีที่เสียภรรยาและบุตรในครรภ์อย่างกะทันหัน ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และให้การดูแลเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมนำเรื่องเข้าพิจารณาให้การช่วยเหลือตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 มาตรา 41
นายวิทยากล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ผู้เสียชีวิตชื่อ น.ส.กัลยาณี สำรวย อายุ 30 ปี มีอาการเจ็บครรภ์ มาที่รพ.ลำลูกกาเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2555 เวลา 12.45 น. ระหว่างรอคลอดหมดสติ หน้าเขียว วัดความดันโลหิตไม่ได้ และเสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งไปโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากภาวะน้ำคร่ำเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะเป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรงขณะคลอดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และคาดไม่ถึง ส่วนใหญ่มักจะเสียชีวิต ไม่มีวิธีป้องกันและไม่สามารถทราบได้ว่าผู้ป่วยรายใดจะเกิดภาวะนี้ขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลชันสูตรของสถาบันนิติเวชอีกครั้ง
สำหรับ ภาวะน้ำคร่ำเข้าสู่กระแสเลือด (Amniotic fluid embolism syndrome) จัดเป็นภาวะแทรกซ้อนของการคลอดที่ได้น้อยแต่มีความรุนแรงมากสาเหตุเกิดจากน้ำคร่ำและชิ้นส่วนของทารกหลุดเข้าไปตามรูแตกบนเส้นเลือดที่ตัวมดลูก ไปอุดอยู่ตามเส้นเลือดเล็กๆ ของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายที่สำคัญที่สุดคือปอด ทำให้เกิดการอุดตันและเส้นเลือดในปอดหดเกร็งร่างกายจึงขาดออกซิเจน อาการเกิดขึ้นทันทีทันใด เป็นเหตุให้หัวใจล้มเหลวตามมา ในการรักษาจะรักษาตามอาการและแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า
**************************** 10 กันยายน 2555
View 11
11/09/2555
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ