ในงานประชุมวิชาการของกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2555 จัดที่ศูนย์การประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 12-14 กันยายน 2555 ได้จัดอภิปรายเรื่อง 70 ปีไม่มีคิว การบริหารจัดการให้ผู้สูงอายุได้รับบริการที่ดี โดยมีนายแพทย์วีระพล ธีระพันธ์เจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา นายแพทย์บรรลุ ศิริพานิช อดีตประธานสภาผู้สูงอายุ นางสาวเสาวนีย์ ประทีปทอง ตัวแทนผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา คุณบุษกร อังคณิต ผู้สื่อข่าวครอบครัวข่าว 3 สกายรีพอร์ท โดยมีนายแพทย์ชาญวิทย์ ทระเทพ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข ดำเนินการอภิปราย
นายแพทย์บรรลุ ศิริพานิช อดีตประธานสภาผู้สูงอายุ กล่าวว่า ขณะนี้ไทยมีผู้สูงอายุประมาณ 8 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 12 ของประชากร ไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุมาแล้ว 2-3 ปี โดยผู้สูงอายุ 2 ใน 3 คนจะอยู่ในชนบท และมีผู้สูงอายุสุขภาพไม่ดีประมาณ 1 ล้านคน จึงเห็นว่าสถานบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือรพ.สต. ซึ่งตั้งอยู่ในชนบทและอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุมากที่สุด ต้องให้ความสำคัญจัดบริการผู้สูงอายุ 3 เรื่องใหญ่ ประกอบด้วย 1.งานสร้างเสริมสุขภาพโดยให้ความรู้เรื่องโภชนาการ อาหารการกินให้ถูกต้อง การออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง และการสร้างสุขภาพจิต เนื่องจากผู้สูงอายุร้อยละ 70-80 จะมีอาการเหงาเพราะเพื่อนทยอยเสียชีวิตไป รพ.สต.จึงควรส่งเสริมให้ตั้งชมรมผู้สูงอายุทุกหมู่บ้านหรือทุกตำบล ซึ่งจะมีผู้สูงอายุเฉลี่ย 100 1,000 คน โดยให้ผู้สูงอายุดำเนินการกันเองเพื่อผู้สูงอายุด้วยกัน การมีชมรม สมาชิกมีการพบปะ ทำกิจกรรมร่วมกัน จะช่วยให้ผู้สูงอายุทุกคนคลายเหงาและมีสุขภาพจิตดีขึ้น ชมรมจะเป็นกุญแจดอกสำคัญนำไปสู่การดำเนินงานกับผู้สูงอายุด้านอื่นๆ
2.งานบริการดูแลป้องกันโรค เช่นการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และ3.การรักษาพยาบาล เมื่อผู้สูงอายุป่วยหากได้รับบริการใกล้บ้านจะสะดวกมาก เนื่องจากร้อยละ 30 ของผู้สูงอายุที่ไปพบแพทย์ เป็นผู้ไม่มีเงินและเจ้าหน้าที่ควรใช้คำพูดง่ายๆสื่อสารความเข้าใจเนื่องจากผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 16 ไม่ได้เข้าโรงเรียน
ด้านนายแพทย์วีระพล ธีระพันธ์เจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หลังจากที่โรงพยาบาลจัดบริการผู้สูงอายุ 70 ปีที่แผนกผู้ป่วยนอกโดยไม่มีคิว ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 มีผู้สูงอายุใช้บริการวันละ 200 คนจากผู้ใช้บริการทั้งหมดเฉลี่ยวันละ 1,200 คน ส่วนใหญ่เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาและกระดูก จากการประเมินผลพบว่าผู้สูงอายุพอใจ กลับบ้านเร็วขึ้น ผู้สูงอายุมีความคาดหวังว่าบริการที่ดีไม่ใช่แค่เร็ว แต่ต้องสะดวก เอื้อเฟื้อ เข้าใจ และให้ผู้สูงอายุพูดคุยมีสังคมด้วย
ทั้งนี้ จากการอภิปรายในครั้งนี้ มีข้อเสนอบริการผู้สูงอายุแก่กระทรวงสาธารณสุขคือ ให้ดูแลผู้สูงอายุทุกมิติการจัดบริการต้องคำนึงถึงข้อจำกัดของผู้สูงอายุ ให้กระทรวงฯ พัฒนาระบบดูแลผู้สูงอายุระยะยาว เตรียมผู้ให้บริการ รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายให้รองรับผู้สูงอายุโดยให้ยึดถือว่าผู้สูงอายุคือผู้ที่มีบุญคุณต่อครอบครัวต่อประเทศดูแลผู้สูงอายุเสมือนเป็นบุคคลในครอบครัวเป็นปูย่าตายายจะทำให้บริการดูแลผู้สูงอายุของไทยเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบและอบอุ่นใจ
********************** 13 กันยายน 2555
View 13
13/09/2555
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ