“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 136 View
- อ่านต่อ
จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เผยผู้ชายร้อยละ 7 และหญิงร้อยละ 1 มีปัญหาตาบอดสีตั้งแต่กำเนิด ส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัวมาก่อนจนกว่าจะสมัครเรียนหรือทำงานที่ต้องทดสอบตาบอดสี ทำให้เสียโอกาสหลายด้าน มีผลกระทบต่อจิตใจ ชี้โรคนี้เป็นกรรมพันธุ์ ไม่มียารักษา แนะแนวทางแก้ไขเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ เพิ่มบริการตรวจคัดกรองตาบอดสีในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกคน ทุกโรงเรียน ทั้งในสังกัดรัฐและเอกชน เพื่อวางแผนอนาคตให้เด็กอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งการเรียน การเลือกอาชีพ และครอบครัว
นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงเด็กนักเรียนหลายคนที่ต้องพลาดโอกาสเรียนต่อในสายอาชีพที่ต้องการ เนื่องมาจากปัญหาสายตาผิดปกติ โดยเฉพาะโรคตาบอดสี (Color Blindness) ซึ่งปีนี้มีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้ว เช่นกรณีเด็กนักเรียนอายุ 16 ปี เป็นความหวังของครอบครัว เสียเงินค่าเรียนกวดวิชาหลายหมื่นบาท เพื่อหวังสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ผลปรากฎว่าเด็กรายนี้สอบได้ แต่เด็กไม่ทราบว่าเป็นโรคตาบอดสีมาก่อนกวดวิชา มารู้ตอนหลังถึงแม้ว่านักเรียนผู้นี้จะผ่านข้อเขียน ก็ไม่สามารถผ่านการตรวจร่างกายเพราะเป็นโรคตาบอดสี
นายแพทย์ฐาปนวงศ์กล่าวว่า โรคตาบอดสีไม่ใช่โรคตาบอดหรือมองไม่เห็น และโรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้หากมีพ่อหรือแม่เป็น คนไทยยังรู้จักโรคนี้น้อย ผู้ที่เป็นโรคตาบอดสีมีการมองเห็นเป็นปกติ แต่จะมีความผิดปกติในเรื่องของการแยกสี โดยทั่วไปจะมี 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มตาบอดสีแต่กำเนิดซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมตาบอดสีชนิดนี้พบมากในผู้ชายร้อยละ 7 และผู้หญิงพบร้อยละ 1 แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ชนิดที่พบมากที่สุดคือตาบอดสีแดง สีเขียว (red/green color blindness) ผู้ป่วยจะแยกสีแดงและสีเขียวออกจากสีอื่นๆ ค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะเวลาที่แสงไม่สว่างนัก ชนิดที่พบรองลงมาคือตาบอดสีน้ำเงิน สีเหลือง (blue/yellow color blindness) มีปัญหาในการแยกสีน้ำเงินและเหลืองออกจากสีอื่นค่อนข้างลำบาก ซึ่งคนที่บอดสีแดง สีเขียว มักจะมีปัญหาบอดสีน้ำเงิน สีเหลืองด้วย และชนิดสุดท้ายคือตาบอดสีทุกสี (Achromatopsia หรือ Total Color Blindness) เป็นชนิดที่พบน้อยที่สุด ผู้ป่วยจะมองไม่เห็นสีทุกสี เห็นแต่เพียงสีขาวและดำเท่านั้น และ2.กลุ่มตาบอดสีที่เกิดขึ้นภายหลัง จะพบในผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคทางจอประสาทตาหรือโรคเส้นประสาทตาอักเสบ พบได้น้อย ผู้ป่วยจะมองเห็นสีต่างๆ แต่มักเรียกชื่อสีหรือเห็นสี ผิดไปจากสีที่แท้จริง ส่วนใหญ่จะผิดปกติสีน้ำเงิน สีเหลือง มากกว่าสีแดงสีเขียว โดยความผิดปกตินี้อาจเป็นตาเดียวหรือเป็นทั้ง 2 ตา ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค