รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เร่งวางระบบการบริหารเงิน บริหารกำลังคนของกระทรวงสาธารณสุขให้เกิดความเหมาะสมกับภาระงานทุกพื้นที่ หลังจากได้บรรจุลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพเป็นข้าราชการระหว่าง พ.ศ. 2555-2557  โดยนำเทคโนโลยีมาใช้  เพื่อลดกำลังคนที่ไม่จำเป็น บริการรวดเร็วขึ้น

         นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขว่า ในการแก้ปัญหาดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ใช้กำลังคนอย่างเหมาะสม ให้โรงพยาบาลจ้างตามความจำเป็น ตามภาระงาน

         นายแพทย์ประดิษฐกล่าวว่า สำหรับปัญหาพยาบาล  ซึ่งที่ผ่านมาเป็นปัญหาเรื้อรัง กระทรวงสาธารณสุขได้เจรจาขอ ก.พ.ทั้งระบบ มีแผนการจัดอัตรากำลังรองรับกับทิศทางการพัฒนาระบบริการทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างชัดเจน เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีการใช้บุคลากรอย่างเหมาะสม และมีแผนลดการใช้กำลังคนโดยไม่จำเป็นโดยนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ อาทิเช่น การใช้คอมพิวเตอร์ปรับปรุงระบบการจ่ายยา การใช้เอ็กซเรย์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์   ไม่ต้องเสียเวลาล้างฟิล์ม  ให้บริการรวดเร็วขึ้น  เป็นต้น เป็นคำสัญญาเพื่อจะทำให้เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขใช้คนอย่างมีประสิทธิภาพตามภาระงานจริงๆ

           นายแพทย์ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ภายในระยะเวลา 3 ปี พ.ศ. 2555-2557 จะมีการบรรจุปีละ 7,547 คน ขณะนี้สิ่งที่ต้องคุยคือเรื่องของระเบียบการใช้เงินของโรงพยาบาล จากการที่ลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพ ได้บรรจุเป็นข้าราชการพลเรือน  จะใช้งบประมาณเกือบ 2,000 ล้านบาท ซึ่งไม่ต้องเพิ่มเงิน เนื่องจากเป็นเงินที่ได้มาจากค่าหัวอยู่แล้ว ส่วนกรณีหากเป็นลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุขใช้เงินบำรุงของโรงพยาบาลแต่ละแห่งมาเป็นค่าจ้าง    ดังนั้นเมื่อลูกจ้างชั่วคราวฯได้บรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนแล้ว ภาระรายจ่ายของโรงพยาบาลก็จะลดลง ไม่ต้องเอาเงินบำรุงมาจ่ายอีก  เพราะรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงินเดือนแทนจากการที่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ   และเมื่อครบ 3 ปี เงินที่เคยจ่ายให้ลูกจ้างประมาณ 30,000 คน ก็จะเหลือจ่ายแค่ประมาณ 7,500 คน แต่จากการที่กำหนดเงินเดือนเพิ่มขึ้น อาจจะเหมือนกับจ่ายให้ 10,000 คน ก็เท่ากับโรงพยาบาลก็จะใช้เงินบำรุงน้อยลงไปเกือบร้อยละ 50  และหากจะรับลูกจ้างแต่ละครั้งจะต้องพิจารณาตามความจำเป็นกับภาระกิจงาน

************************************************* 4 ธันวาคม 2555



   
   


View 11    04/12/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ