วันนี้ (12 ธันวาคม 2555) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นองค์กรได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้กำกับดูแล เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานและตรวจเยี่ยมหน่วยบริการต่างๆ ของโรงพยาบาล

                 นายแพทย์ชลน่านกล่าวว่า โรงพยาบาลบ้านแพ้วเป็นโรงพยาบาลกำกับของรัฐ ขนาด 300 เตียงที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติองค์การมหาชนที่ไม่แสวงกำไร ตั้งแต่ พ.ศ. 2542 มีบุคลากร 974 คน บริหารจัดการอย่างอิสระ  ในรูปของคณะกรรมการซึ่งมีตัวแทนของประชาชนในพื้นที่ร่วมบริหารด้วย สามารถตอบสนองนโยบายที่สำคัญๆของรัฐบาลได้ชัดเจนและประสบผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยม  จากการรับฟังผลการดำเนินงานพบว่ามีความคืบหน้าไปมากเกินความคาดหวังของกระทวงสาธารณสุข ทั้งเรื่องเทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่นเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์  ระบบห้องตรวจชันสูตรที่รายงานผลผ่านคอมพิวเตอร์ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขาแก้ปัญหาสุขภาพในพื้นที่ เช่นบริการรักษาโรคตาต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม  โรคข้อเข่าเสื่อม การบริการเคลื่อนที่  ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธาสูงมาก สะท้อนได้จากยอดบริการผู้ป่วยนอกเฉลี่ย 1,900 รายต่อวัน และที่ชัดเจนไปกว่านั้นในรอบ 5 ปีมานี้ มีผู้ใช้สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท ขอย้ายสิทธิมาใช้บริการที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วเพิ่มขึ้นทุกปี จากปี 2550 มีผู้ขึ้นทะเบียน 74,000 คน เพิ่มเป็น 85,000 คนในปี 2555 หรือเพิ่มกว่า 10,000 รายในรอบ 5 ปี รายได้สูงกว่ารายจ่าย โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากบัตรทองและกลุ่มข้าราชการบำนาญ          

            นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายปฏิรูปการบริหารของกระทรวงสาธารณสุข ให้สามารถจัดบริการดูแลประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดเป็นเขตบริการ มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันเกิดประโยชน์สูงสุด ระหว่างโรงพยาบาลรัฐต่อรัฐหรือรัฐกับเอกชน ไม่เกิดการแย่งชิงทรัพยากรกันเอง ซึ่งโรงพยาบาลบ้านแพ้วดำเนินการรุดหน้าไปก่อนแล้ว จะต้องผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมให้ได้ทุกพื้นที่   โดยเฉพาะการเป็นเมดดิคัลฮับของประเทศไทยที่ไม่กระทบบริการคนไทย ซึ่งปีนี้รัฐบาลได้ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นแกนกลางขับเคลื่อนนโยบาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาจุดขายของประเทศไทย ซึ่งในเบื้องต้นจุดเด่นที่ใช้เป็นจุดขายและมีความเป็นไปได้มี 2 เรื่องคือ 1.การเป็นศูนย์วิชาการการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วก็มีความเป็นไปได้  และ 2.ด้านบริการ ซึ่งมี 2 ส่วนคือ บริการรักษาพยาบาลการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และบริการดูแลสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ เช่นลองสเตย์หรือการพำนักระยะยาว  

               อย่างไรก็ดี ได้มอบนโยบายให้โรงพยาบาลบ้านแพ้วเพิ่มบริการในชุมชน ซึ่งรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพบริการอันดับ 1 และการส่งเสริมสุขภาพในชุมชนให้ประชาชนมีสุขภาพดีอย่างยิ่งยืน  โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมพัฒนา บนเงื่อนไขสุขภาพดี มีสตังค์ และยั่งยืน และจะใช้เกณฑ์ระดับตำบลเป็นตัวประเมินความสำเร็จการปฏิบัติงาน มั่นใจว่าโรงพยาบาลบ้านแพ้วจะเป็นตัวอย่างขององค์กรมหาชน ในเรื่องการพัฒนาความเชี่ยวชาญการรักษา และมีตัวอย่างของตำบลสุขภาพดีด้วย เพื่อเป็นต้นแบบไห้โรงพยาบาลในสังกัดที่มีความพร้อมเพื่อเป็นองค์กรมหาชนเพิ่มขึ้น  นายแพทย์ชลน่านกล่าว

************************ 12 ธันวาคม 2555

 



   
   


View 9    12/12/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ