วันนี้ (15 ธันวาคม 2555) ที่โรงพยาบาลสูงเม่น อ.สูงเม่น จ.แพร่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบายการดำเนินงานแก่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสูงเม่น และสมาชิกสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย
นายแพทย์ชลน่านให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหากำลังบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ในภาพรวมของกระทรวงสาธารณสุขขณะนี้ มีกำลังบุคลากรทั้งข้าราชการและลูกจ้างปฏิบัติงานในหน่วยบริการของกระทรวงฯที่มีกว่า 10,000 แห่ง รวมประมาณ 320,000 คน ประกอบด้วยข้าราชการ 180,000 คน ที่เหลืออีก 140,000 คนเป็นลูกจ้างชั่วคราว ซึ่งในจำนวนนี้เป็นลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพ 21 สายงาน เช่นพยาบาลวิชาชีพ เภสัชกร นักจิตวิทยา นักเทคนิคการแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักรังสีการแพทย์ นักการแพทย์แผนไทยที่ปฏิบัติงานตั้งแต่พ.ศ. 2549-2555 รวมทั้งหมด 30,188 คน ล่าสุดนี้มติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555 เห็นชอบการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวที่เป็นสายวิชาชีพ จำนวน 21 สายงานของกระทรวงสาธารณสุข โดยได้อนุมัติตำแหน่งข้าราชการให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อบรรจุลูกจ้างดังกล่าวรวม 22,641อัตรา ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนภายในระยะ 3ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556-2558เฉลี่ยบรรจุปีละ 7,547อัตรา ในปีงบประมาณ 2556นี้จะบรรจุทั้งหมด 8,446อัตรา และปี 2557-2558 บรรจุปีละ 7,547 ตำแหน่ง
นายแพทย์ชลน่านกล่าวว่า สำหรับกลุ่มลูกจ้างชั่วคราวสายสนับสนุนที่อยู่นอกเหนือ 21 สายงานวิชาชีพ และลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพที่ยังไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ ซึ่งมีประมาณ 117,000 คนทั่วประเทศ กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมมาตรการรองรับเพื่อให้เกิดขวัญกำลังใจและความมั่นคงในอาชีพ โดยจะรับเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุขหรือ พกส. ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำร่างระเบียบกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉบับที่ 1 ได้แก่ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยพนักงานกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. .... ซึ่งจะมีคณะกรรมการบริหารหลักเกณฑ์ต่างๆ 6 ชุด ได้ แก่ 1.ชุดกำหนดประเภทตำแหน่งลักษณะงานและคุณสมบัติเฉพาะของกลุ่มงาน 2.กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการสรรหาและการเลือกสรรพนักงานฯ 3.ชุดกำหนดค่าจ้างพนักงาน 4.ชุดสิทธิประโยชน์ 5.ชุดการประเมินผลการปฏิบัติงาน และ6.หลักเกณฑ์การลาออกจากการปฏิบัติงานระหว่างสัญญาจ้าง
ฉบับที่ 2 คือ การปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเงินบำรุงหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ขณะนี้ได้เสนอขอความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง คาดว่าจะได้รับการตอบกลับมาในเร็วๆนี้ และเมื่อได้รับความเห็นชอบตอบกลับมาแล้วก็จะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุขลงนามเพื่อประกาศใช้ต่อไป คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ในเดือนมกราคม 2556 นี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุข
ด้านนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าจะมีความมั่นคงในอาชีพมากขึ้น มีอัตราเงินเดือนที่สูงกว่าข้าราชการ 1.2 เท่า จะได้รับสิทธิประโยชน์เทียบเท่าข้าราชการ เช่น มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สามารถลาศึกษาต่อได้ มีการประเมินขึ้นเงินเดือน มีโบนัส ได้รับค่าจ้างระหว่างลา มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลางาน มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าเบี้ยประชุม เป็นต้น
นายแพทย์สุพรรณ กล่าวต่อว่า พนักงานกระทรวงสาธารณสุขแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภททั่วไป คือกลุ่มพนักงานที่ปฏิบัติงานเป็นลักษณะงานประจำ ซึ่งเป็นภารกิจหลักและภารกิจทั่วไปของหน่วยบริการได้แก่ พนักงานกลุ่มเทคนิค เช่น พยาบาลเทคนิค เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ เจ้าพนักงานเวชสถิติ เจ้าพนักงานสาธารณสุข นายช่างเทคนิค เจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษา พนักงานเภสัชกรรม ช่างไฟฟ้า ช่างเหล็ก ช่างประปาเป็นต้น กลุ่มบริการ เช่น เจ้าพนักงานธุรการ พนักงานเปล งานพัสดุ พนักงานช่วยการพยาบาล พนักงานประกอบอาหาร กลุ่มบริหารทั่วไปเช่น นักจัดการงานทั่วไป นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักวิขาการเงินบัญชี นักทรัพยากรบุคคล และกลุ่มวิชาชีพเฉพาะหรือกลุ่มที่ต้องปฏิบัติงานภายใต้พระราชบัญญัติวิชาชีพ เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัช พยาบาลวิชาชีพ และประเภทพิเศษ ซึ่งเป็นลักษณะงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถหรือความเชี่ยวชาญสูงมากเป็นพิเศษ เพื่อปฏิบัติงานที่มีความสำคัญและจำเป็นเฉพาะเรื่องของหน่วยบริการ
**************************************** 15 ธันวาคม 2555