วันนี้ (20 ธันวาคม 2555) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กทม. นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ณรงค์  สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดสัมมนา“ทศวรรษแห่งการพัฒนาเครือข่ายสุขภาพอำเภอเพื่อระบบสุขภาพที่ยั่งยืน” โดยมีผู้บริหารระดับสูงทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค  ตัวแทนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน สำนักงานวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน และภาคีเครือข่ายบริการสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชนจากทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุมกว่า 500 คน  

           นายแพทย์ประดิษฐกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิให้มีคุณภาพ เพื่อลดโรค ลดการเจ็บป่วยของประชาชน ลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ โดยใช้กลไกของเครือข่ายบริการสุขภาพ ซึ่งกำหนดไว้ 12 พวงเครือข่ายบริการใหญ่ เครือข่ายละ 5-8 จังหวัด  และในเครือข่ายบริการสุขภาพพวงเล็กหรือระดับอำเภอ ประชาชนจะได้รับบริการที่มีคุณภาพและปลอดภัย มีหมอใกล้บ้าน ใกล้ใจ หรือหมอประจำตัว พึ่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบส่งต่อผู้ป่วยภายในแต่ละเครือข่าย และคุณสมบัติที่สำคัญ 5 ประการของเครือข่ายระดับอำเภอคือ 1.มีความเป็นเอกภาพในการบริหารจัดการ ด้วยความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลชุมชนกับสาธารณสุขอำเภอ เชื่อมโยงกับประชาชนในชุมชน  2.มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันเช่น บุคลากร งบประมาณ เทคโนโลยี หรือเครื่องมือต่างๆ  3.มีการจัดบริการสุขภาพที่จำเป็นของแต่ละชุมชน ซึ่งแต่ละพื้นที่มีความต้องการแตกต่างกัน 4.มีการพัฒนาศักยภาพบุคลากรภายในเครือข่าย  และ5.ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพตนเองและคนในท้องถิ่นไม่ให้เจ็บป่วย 

            นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า การพัฒนาเครือข่ายสุขภาพระดับอำเภอที่มีกว่า 700 แห่ง  ถือเป็นยุทธศาสตร์หลักที่จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาระบบปฐมภูมิของไทยเกิดความเข้มแข็ง เนื่องจากอำเภอเป็นพื้นที่ขนาดพอเหมาะ มีทรัพยากรเพียงพอ เข้าถึงได้ง่ายที่สุด โดยการปฏิรูปและส่งเสริมการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ จนถึงระดับสูงคือตติยภูมิ จะต้องพัฒนาไปพร้อมกันทุกๆด้าน เชื่อมโยงข้อมูลกันเป็นเครือข่ายในระดับจังหวัด เขต และระดับภาคไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งด้านบุคลากร และคุณภาพบริการแบบเบ็ดเสร็จ โดยโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือรพ.สต. องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือกันทำงาน เพื่อให้ประชาชนในพื้นได้รับบริการที่เหมาะสม ได้มาตรฐาน สามารถเชื่อมโยงการบริการกับระบบสาธารณสุขระดับที่สูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

              ทางด้านนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ให้เครือข่ายสุขภาพทั่วประเทศ จัดทำแผนพัฒนาระบบบริการภายในเครือข่ายระดับเขต ซึ่งมีทั้งหมด 12 เครือข่าย     แล้วนำเสนอที่ส่วนกลางทั้งด้านการวิเคราะห์ระบบบริการที่ยังบกพร่อง  และเสนอแผนการลงทุนสิ่งก่อสร้างและเครื่องมือแพทย์ ครุภัณฑ์ และแผนการจัดอัตรากำลังบุคลากรที่จำเป็น   เพื่อให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้รับบริการด้วยมาตรฐานเดียวกัน  โดยในปีงบประมาณ 2556 จะเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการในเครือข่ายระดับอำเภอ 3 เรื่อง ได้แก่ 1. ระบบเครือข่ายการดูแลสุขภาพประชาชนทั้งอำเภอระหว่างโรงพยาบาลชุมชนกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 2.การพัฒนาบุคลากรในรพ.สต.ให้มีหมอประจำตัว ติดต่อได้ตลอดเวลาโดยใช้กระบวนการพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้พื้นที่เป็นฐาน และ3.ใช้หลักการของเวชศาสตร์ครอบครัวมาเป็นแนวทางในการให้บริการ ขณะนี้มีพื้นที่ตัวอย่างที่ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาการดูแลสุขภาพประชาชนทั้งอำเภอ 22 อำเภอเช่น อ.หนองจิก อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี  อ.แก่งคอย อ.ดอนพุด จ.สระบุรี  อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ อ.ปัว จ.น่าน                                      

*****************************    20  ธันวาคม 2555



   
   


View 12    20/12/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ