รพ. สวรรค์ประชารักษ์ เผชิญวิกฤติคนป่วยล้นเตียง เล็งตั้งศูนย์การแพทย์เชี่ยวชาญแห่งใหม่

           รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยโรงพยาบาลศูนย์สวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ กำลังเผชิญปัญหาผู้ป่วยล้นเตียง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุดยาว จำนวนผู้ป่วยฉุกเฉินอาการรุนแรงและอุบัติเหตุมากจนล้นเตียงที่มีอยู่ถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์ พื้นที่ใช้สอยในอาคารเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เล็งพัฒนาระบบบริการ  โดยจะตั้งศูนย์การแพทย์เชี่ยวชาญรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ อุบัติเหตุ และเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ แห่งใหม่ เพิ่มความรวดเร็วการเข้าถึงบริการผู้ป่วย

              นายแพทย์ชลน่าน  ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์โสภณ  เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมความพร้อมบริการรองรับจำนวนผู้เจ็บป่วยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 ของโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ของกระทรวงสาธารณสุขประจำเขตภาคเหนือตอนล่าง ว่า ในด้านความพร้อมของโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ขณะนี้พบว่าสมบูรณ์แบบทุกด้าน ทั้งทีมบุคลากร เครื่องมือแพทย์ บริการการแพทย์ฉุกเฉิน แต่เรื่องที่เป็นห่วงพบว่าในช่วงเทศกาลวันหยุดติดต่อกันหลายวัน จำนวนผู้เจ็บป่วยมีจำนวนมาก ประมาณ 2 ใน 3 เป็นผู้ป่วยจากโรคเรื้อรัง โรคติดเชื้อต่างๆ ที่เหลือเป็นอุบัติเหตุทั้งหมด และมีอาการรุนแรง  ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทาง ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่นอนรักษาในหอผู้ป่วยทั้งชายและหญิง ล้นเตียงที่มีอยู่ 653 เตียง ต้องเสริมเพิ่มอีก 20-30 เปอร์เซ็นต์ตลอดปี  บางตึกต้องนอนบริเวณทางเดิน  สภาพแออัดไปด้วยผู้ป่วยและญาติเฝ้าไข้ ในขณะที่พื้นที่บริการในโรงพยาบาลมีเพียง 14 ไร่ ไม่สามารถพัฒนาอาคารบริการใหม่เพิ่มเติมได้อีก และพื้นที่ตั้งโรงพยาบาลประสบปัญหาน้ำท่วม  การเดินทางเข้า-ออกยากลำบากมาก      

             นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า ในการแก้ไขสภาพปัญหาที่กล่าวมา  กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนพัฒนาประสิทธิภาพระบบการจัดบริการ แยกบริการผู้ป่วยประเภททั่วไป ที่อาการไม่หนัก ไม่รุนแรง และผู้ป่วยที่อาการรุนแรง ยุ่งยากซับซ้อน ที่ต้องรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางและเครื่องมือแพทย์เทคโนโลยีชั้นสูง  โดยมีแผนจัดตั้งศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคเฉพาะทาง 4 สาขา ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง อุบัติเหตุและฉุกเฉิน และการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะตามนโยบายรัฐบาล โดยจะสร้างในพื้นที่แห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์ดูแลรับส่งต่อผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคนี้ จากเครือข่ายบริการ 5 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี กำแพงเพชร พิจิตร ชัยนาท และนครสวรรค์ ซึ่งทำเลน้ำไม่ท่วม และการเดินทางรวดเร็ว ไม่ต้องเข้าเมือง  ขณะนี้ได้ออกแบบอาคารเรียบร้อยแล้ว วงเงินก่อสร้างประมาณ 500 ล้านบาท   ส่วนสถานที่ก่อสร้างนั้น ขณะนี้ได้ขอความอนุเคราะห์ขอให้พื้นที่ของมลฑลทหารบกที่ 31 ซึ่งอยู่ติดถนนเอเชียใหม่  ขนาด 200 ไร่ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภากลาโหม หากได้รับการอนุญาตก่อสร้างจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดเป็นอย่างสูง ที่จะสามารถเข้าถึงบริการตรวจรักษาในระดับเชี่ยวชาญรวดเร็วขึ้น และปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น

************************   1 มกราคม 2556