ครม.อนุมัติโครงการเงินกู้ซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้ สธ. วงเงิน 3,426 ล้านบาท

           คณะรัฐมนตรี อนุมัติโครงการเงินกู้จัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มขีดความ สามารถบริการประชาชนของโรงพยาบาลใน 12 เครือข่ายบริการ วงเงิน 3,426 ล้านบาท โดยสามารถจัดซื้อได้ทันทีในวงเงิน 3,273 ล้านบาท รวม 3,390 รายการ ส่วนที่เหลืออีก 152 ล้านบาท จะพัฒนาระบบการตรวจสารเสพติดของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พัฒนาศูนย์เชี่ยวชาญของกรมการแพทย์ และพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลชุมชน ให้เร่งดำเนินการเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองเพื่อเสนอ ครม. อนุมัติต่อไป

นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ (8 มกราคม 2556) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการงบเงินกู้ของกระทรวงสาธารณสุข จากกรอบเดิมที่ ครม.อนุมัติไว้ 3,426 ล้านบาท โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งคณะทำงานซึ่งมีตัวแทนจากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน ชมรมแพทย์ชนบท และส่วนกลาง เพื่อทบทวนความจำเป็นและต่อรองราคาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 เป็นต้นมา สามารถลดลงเหลือวงเงินประมาณ 3,273 ล้านบาท นำไปจัดซื้อรวม 3,390 รายการ และมีเงินเหลืออีก 152 ล้านบาท

นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า งบประมาณวงเงินกู้ของกระทรวงสาธารณสุขจะใช้เพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์และครุภัณฑ์สนับสนุนการทำงาน ใน 4 โครงการใหญ่เพื่อพัฒนาระบบบริการประชาชนทั่วประเทศกระจายไปยังเครือข่ายบริการ 12 เครือข่าย ได้แก่ 1.โครงการระดับทุตติยภูมิ เพิ่มขีดความสามารถโรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ วงเงิน 747 ล้านบาท 2.โครงการระดับตติยภูมิ พัฒนาขีดความสามารถโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป วงเงิน 399 ล้านบาท 3.การพัฒนาศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคหัวใจและมะเร็ง วงเงิน 1,100 ล้านบาท และ4.โครงการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลชุมชน วงเงิน 1,015 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะส่งวงเงินดังกล่าวเสนอสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เพื่อโอนให้จังหวัดต่างๆ ดำเนินการจัดซื้อในพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นครุภัณฑ์วงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อนุมัติ ขณะนี้ได้เตรียมจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีไว้พร้อมแล้ว สามารถเซ็นต์สัญญาจัดซื้อจัดจ้างได้ทันที

ทั้งนี้ งบประมาณอีก 152 ล้านบาท ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อพัฒนาศักยภาพของกรมวิชาการ 3 กรม ได้แก่ โครงการจัดซื้อเครื่องมือตรวจสารเสพติดในห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 60 ล้านบาท โครงการพัฒนาศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาต่างๆ  กรมการแพทย์ในวงเงิน 75 ล้านบาท และพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลชุมชนเพิ่มเติม ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 17 ล้านบาท โดยจะต้องเริ่มดำเนินการใหม่ทั้งหมดตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง และเสนอคณะกรรมการกลั่นกรอง เพื่อเสนอ ครม.อนุมัติต่อไป

นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อไปว่า ในการจัดสรรครุภัณฑ์ทางการแพทย์ครั้งนี้ ได้กระจายไปยังเครือข่ายบริการ 12 เครือข่าย เพื่อไม่ให้มีการกระจุกตัว และเป็นไปตามแผนพัฒนาระบบบริการที่ต้องการให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้รับบริการที่มีคุณภาพตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงศูนย์เชี่ยวชาญของแต่ละเครือข่ายบริการ เช่น เครือข่ายบริการที่ 1 ในภาคเหนือ 8 จังหวัด  เช่น เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน ได้รับงบ 337 ล้านบาท  เครือข่ายบริการที่ 6 ในภาคกลาง 8 จังหวัด เช่น ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี ชลบุรี ได้รับ 353 ล้านบาท เครือข่ายบริการที่ 8 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด เช่น บึงกาฬ อุดรธานี ได้รับ 328 ล้านบาท เครือข่ายบริการที่ 11 ในภาคใต้ 7 จังหวัด เช่น ชุมพร สุราษฎร์ธานี ได้รับ 316 ล้านบาท

ครุภัณฑ์ที่จัดซื้อมากประเภทเครื่องมือขนาดใหญ่ใช้ในศูนย์เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ เช่น เครื่องสวนหัวใจระนาบเดียว เครื่องผ่าตัดน้ำวุ้นลูกตา เครื่องมือผ่าตัดเปิดกระโหลกศีรษะ เครื่องเอกซเรย์เต้านมระบบอะนาล็อก และเครื่องมือขนาดเล็ก เช่น เครื่องดมยาสลบ เครื่องตรวจอวัยวะภายในด้วยคลื่นความถี่ เครื่องเอกซเรย์ กล้องส่องตรวจกระเพาะอาหาร โดยในวันที่ 18 มกราคม 2556 จะนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ไปดูระบบบริการโรคหัวใจของเครือข่ายบริการที่ 9 ที่จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่ระดับหมู่บ้านจนถึงศูนย์เชี่ยวชาญโรคหัวใจที่ รพ.มหาราช   

******************************** 8 มกราคม 2556