กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้ายกระดับคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุขครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งด้านการรักษาพยาบาล การส่งเสริมป้องกันโรค โดยตั้ง 98 ศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคที่เป็นปัญหาประเทศ 10 สาขา เช่น ศูนย์โรคหัวใจ โรคมะเร็ง กระจายทุกพื้นที่ มาตรฐานเดียวกัน ประชาชนเข้าถึงบริการเสมอภาค และอยู่ใกล้บ้าน  

          เช้าวันนี้ (11มกราคม 2556 ) ที่โรงแรมวรบุรี อโยธยา คอนเวนชั่น รีสอร์ท จ.พระนครศรีอยุธยา นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ ประจำปี 2556 จำนวน 250 คน เพื่อชี้แจงแนวนโยบายในการพัฒนาระบบริการสาธารณสุขและมอบนโยบายทิศทางการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลและความต้องการของประชาชน      
นายแพทย์ณรงค์กล่าวว่า ในปี 2556 เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงระบบริหารจัดการด้านสุขภาพ   รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขมีแผนบูรณาการยุทธศาสตร์ประเทศไทย ลดความเหลื่อมล้ำและจัดแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ให้สามารถตอบสนองความต้องการประชาชน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเครือข่ายบริการสุขภาพออกเป็น 12 เครือข่าย รวมกับ กรุงเทพมหานคร อีก 1 เครือข่าย ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ แต่ละเครือข่ายมี 5-7 จังหวัด ดูแลประชากร 4-6 ล้านคน ให้บริการมาตรฐานเดียวกันตั้งแต่ระดับปฐมภูมิหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ไปจนถึงศูนย์เชี่ยวชาญ เป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน เท่าเทียม เบ็ดเสร็จภายในเครือข่ายบริการ
นายแพทย์ณรงค์ กล่าวอีกว่าประการสำคัญ มีเป้าหมายพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วๆไปที่มี 98 แห่งทั่วประเทศ ให้เป็นศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรค 10 สาขาที่เป็นปัญหาของประเทศ ได้แก่ 1.โรคหัวใจและหลอดเลือด 2.มารดาและทารกแรกเกิด 3.โรคมะเร็ง 4.อุบัติเหตุ 5.โรคตา และโรคไต 6.จิตเวช 7.สาขาพื้นฐานหลัก 5 สาขา ได้แก่สูตินารีเวช ศัลยกรรม อายุรกรรม กุมารเวช กระดูกหรือออโธปิดิกส์ 8.ทันตกรรม 9.บริการปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และสุขภาพองค์รวม 10.สาขาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเช่นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งทั้ง 12 เครือข่ายบริการ จะมีระบบบริการเหมือนกัน มาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งพัฒนาโรงพยาบาลชุมชนของแต่ละเครือข่าย สามารถทำการรักษาด้วยการผ่าตัด หรือรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางได้มากขึ้น ขณะนี้ได้วางแผนจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็นในระบบบริการไว้ทั้งหมดแล้วรวม 3,390 รายการ เช่น กล้องส่องกระเพาะอาหาร เครื่องเอ็กซเรย์ระบบดิจิตอล เครื่องสวนหัวใจวงเงิน 3,273 ล้านบาท จากงบเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กระจายให้ศูนย์เชี่ยวชาญต่างๆ
การพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อประชาชนทุกคนแต่ละพื้นที่โดยตรง จะได้รับการบริการที่ดีขึ้นและเท่าทียมกัน มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เข้าถึงบริการอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ไม่ต้องเดินทางไปรักษาไกลถึงกรุงเทพมหานคร และเมื่อไทยเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปลายปี 2558 ระบบการแพทย์และสาธารณสุขไทย จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นกับต่างชาติยิ่งขึ้น นายแพทย์ณรงค์ กล่าว
          นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุข ยังได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เชื่อมโยงครอบคลุม รพ.สต.ทุกแห่งใน ปี 2556 ลดค่าใช้จ่ายเดินทางผู้ป่วยและญาติให้ได้ร้อยละ 10 ลดความรุนแรงของโรคเบาหวาน ความดันโลหิต ให้ได้ร้อยละ 50 มีผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิต เข้ามารักษาที่ รพ.สต.มากกว่า ร้อยละ 50 หญิงตั้งครรภ์ได้รับการฝากครรภ์ครั้งแรกไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 เป็นต้น   
 *************************************** 11 มกราคม 2556


   
   


View 12    11/01/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ