ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยยอดผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคจากปัญหาหมอกควันภาคเหนือตอนบน ในช่วง 3-9 มีนาคม 2556 พบรวมกว่า 4 หมื่นคน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 16 ใน 3 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ลำปาง เชียงใหม่ ส่วนใหญ่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ให้ อสม.รณรงค์วิธีทำหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นเข้าปอดใช้เองที่บ้าน และรณรงค์หยุดการเผาทุกชนิด เพื่อลดมลพิษในอากาศ
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การเจ็บป่วยจากปัญหาหมอกควันใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ว่าผลการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน ของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลผู้ป่วยที่ไปรับบริการในโรงพยาบาลในสังกัด 80 แห่ง พบว่าในรอบสัปดาห์วันที่ 3-9 มีนาคม 2556 มีผู้ป่วยสะสมใน 4 กลุ่มโรคที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง รวม 42,525 คน อันดับ 1 โรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด จำนวน 22,644 คน รองลงมาคือโรคทางเดินหายใจทุกชนิดจำนวน 16,917 คน โรคผิวหนังอักเสบจำนวน 1,593 คน และโรคตาอักเสบจำนวน 1,371 คน โดยจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556-2 มีนาคม 2556 ร้อยละ 16 พื้นที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นใน 7 จังหวัด ยกเว้นจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แก่ เชียงราย น่าน ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ และเชียงใหม่ เพิ่มประมาณ 20-2,000 คน ไม่มีรายใดอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุขให้โรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่จัดบริการผู้ป่วยอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน 6 จังหวัดที่ยังมีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในช่วงนี้ ได้แก่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา และได้ย้ำให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รณรงค์ให้ประชาชนทำหน้ากากอนามัยใช้เองที่บ้านซึ่งสามารถตัดเย็บได้ง่ายโดยใช้เศษผ้าที่มีอยู่ เช่น ผ้ายืด ผ้าสำลี ผ้าสาลู และใช้กระดาษทิชชูชนิดกล่องหรือชนิดห่อที่ใช้เช็ดหน้าทั่วไป มาทำเป็นไส้กรองหน้ากากเสริมประสิทธิภาพการกรองของผ้า จากการวิจัยพบว่ามีประสิทธิภาพสูงได้ผลดีในการป้องกันฝุ่นที่มีขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ไม่แพ้กับหน้ากากอนามัยที่มีในท้องตลาด ราคาต้นทุนต่ำ สามารถนำมาใช้ได้อย่างทันท่วงที โดยได้ให้ อสม. และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เผยแพร่วิธีการทำหน้ากากอนามัย รวมทั้งรณรงค์ไม่ให้ชาวบ้านงดการเผาเพื่อลดมลพิษในอากาศ
ทางด้านแพทย์หญิงทัศนา หลิวเสรี รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่มีปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในขณะนี้ควรหลีกเลี่ยงเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม ปิดประตู หน้าต่าง ไม่ให้ฝุ่นควันเข้าบ้าน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากอนามัยหรือผ้าปิดจมูก โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคปอด เช่น โรคถุงลมอุดกั้น และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบ หืด ภูมิแพ้ หากมีอาการผิดปกติ เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หายใจติดขัด ใจสั่น ขอให้พบแพทย์ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ขอให้สังเกตการดิ้นของทารกในครรภ์ หากดิ้นน้อยลงให้รีบพบแพทย์โดยทันทีเนื่องจากทารกอาจเกิดปัญหาได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ รวมทั้งอาจมีผลต่อน้ำหนักตัวของทารกและมักคลอดก่อนกำหนด
มีนาคม 4/5 *********************** 16 มีนาคม 2556