วันนี้ (22 มีนาคม 2556 ) นายแพทย์ณรงค์  สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์ภายหลังชมรมเภสัชกรโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข  ยื่นหนังสือสนับสนุนการดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน  (P4P) ที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า วันนี้ชมรมเภสัชกรของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วยโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการปรับระบบค่าตอบแทน ในส่วนที่ปรับลดค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายในบางจุด  แล้วเพิ่มเติมด้วยการจ่ายตามภาระงาน ทางกลุ่มเภสัชกรเห็นด้วยในหลักการ  พร้อมที่จะทำงานไปด้วยกัน   ก็มีข้อเสนอในบางจุดที่อาจจะมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง ซึ่งกระทรวงฯจะรับสิ่งที่เป็นข้อเสนอ  โดยการปรับระบบค่าตอบแทนครั้งนี้ ยึดหลักการสร้างความเป็นธรรม ให้กับทุกวิชาชีพและระหว่างวิชาชีพ และในวิชาชีพ ยึดหลักใครทำงานมาก จะมีค่าตอบแทนที่มาก  ขณะเดียวกันเราก็คำนึงถึงพื้นที่ที่คนไปอยู่ยาก ก็ยังคงจ่ายเป็นเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายเช่นเดิม  เป็นหลักที่เรายึดในการปรับค่าตอบแทนครั้งนี้   โดยคาดหวังว่าระบบค่าตอบแทนจะมีความมั่นคง และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับทุก ๆ วิชาชีพในกระทรวงสาธารณสุข  เนื่องจากการทำงานต้องทำงานเป็นทีม  ทุกวิชาชีพไม่ว่าจะเป็นแพทย์  เภสัชกร   ทันตแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือ รพ.สต. นักวิชาการ และสหวิชาชีพ  ดังนั้นจึงพยายามให้ความเป็นธรรมกับทุก ๆ วิชาชีพ

          นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า เรื่องของเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายนั้น  คาดว่าหลังจากที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว จะสามารถจ่ายได้เลยตามอัตราที่ปรับ  ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556    ส่วนการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน จะต้องเริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่ 1 เมษายน 2556  เมื่อเก็บไปได้ระยะหนึ่ง ก็จะสะท้อนกลับมาเป็นการจ่ายเงิน  เพราะฉะนั้นในระยะแรกต้องเก็บข้อมูลก่อน   ซึ่งโรงพยาบาลที่มีความพร้อมและดำเนินการเก็บข้อมูลอยู่แล้ว  ก็สามารถดำเนินการได้เลย  

“ขอยืนยันว่าในการเก็บข้อมูลเพื่อคิดเป็นค่าคะแนนภาระงานนั้น   ทางทีมงานได้จัดทำให้จัดเก็บอย่างง่าย โดยเฉพาะเรื่องของทางการแพทย์  ก็จะเก็บจากระบบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของทุกโรงพยาบาลอยู่แล้ว  ไม่ได้สร้างภาระในการเก็บแต่อย่างใด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะทำการชี้แจงวิธีการจัดเก็บในสายวิชาชีพต่างๆ ต่อไป  เพื่อใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันในการจ่ายค่าภาระงานที่เกิดขึ้น  หากเรียบร้อยแล้ว ก็จะเบิกจ่ายย้อนหลังให้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2556 เป็นต้นไป” นายแพทย์ณรงค์กล่าว

          นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อไปว่า  สำหรับเรื่องกังวลของแต่ละวิชาชีพ  โดยเฉพาะที่วันนี้ที่ชมรมเภสัชกร มาพบก็คือเรื่องของสัดส่วนระหว่างวิชาชีพ เช่น ทันตแพทย์ เภสัชกร เป็นต้น จะให้ทีมงานทบทวนเรื่องนี้  และระหว่างที่ดำเนินการในปีที่ 1 คือ 1 เมษายน 2556 – 31 มีนาคม 2557 ระหว่างดำเนินการก็จะมีการประเมินไปด้วย  โดยได้ให้สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขหรือ สวรส. ร่วมกับ สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ เป็นทีมงานวิชาการในการประเมินและทบทวนก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ซึ่งวางเป็นร่างเอาไว้

***********************************  22 มีนาคม 2556



   
   


View 16    22/03/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ