กระทรวงสาธารณสุข จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดรวม 3 สายพันธุ์ ให้กลุ่มเสี่ยง 2 กลุ่ม รวม 3.5 ล้านคนได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่กำจัดสัตว์ปีก และประชาชน 4 กลุ่มใหญ่ได้แก่ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน- 2 ปี  และผู้ป่วยทุกอายุที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค ตั้งแต่ 27 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นไป ที่โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

          นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลมักพบการระบาดในฤดูฝนและฤดูหนาว ในปี 2556 นี้กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าว ตั้งเป้าฉีดทั้งหมด 3 ล้าน 5 แสนคน จะเริ่มฉีดพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2556  โดยจะฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงที่เมื่อป่วยแล้วจะเจ็บป่วยรุนแรง 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.บุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่กำจัดสัตว์ปีก และกลุ่มที่ 2 คือประชาชนซึ่งมี 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป  2.กลุ่มหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป  3.กลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน 2 ปี และ4.ผู้ป่วยทุกอายุที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรคปอดปอดอุดกั้น หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด โดยสามารถเข้ารับบริการได้ฟรีที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ และโรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่เข้าร่วมโครงการกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 

               นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า  วัคซีนที่ใช้ในปีนี้เป็นชนิดรวม ป้องกันไข้หวัดใหญ่ซึ่งพบมากที่สุดในประเทศไทย 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์เอ เอช 1 เอ็น 1(H1N1)  ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2(H3N2) และชนิดบี(B) หลังฉีดจะมีผลป้องกันโรคเป็นเวลา 1 ปี  ซึ่งจะลดการป่วยหรือลดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้  ซึ่งรัฐบาลได้เริ่มจัดบริการฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา และได้ผลดี 

                ทางด้านนายแพทย์โอภาส  การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยทั่วไปจะมีข้อห้ามใน 5 กลุ่มได้แก่ 1. เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน 2.ผู้ที่เคยแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือสารประกอบอื่นๆ หรือแพ้ไข่ไก่ แพ้ไก่อย่างรุนแรง  3.ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเฉียบพลัน มีไข้ 4.ผู้ที่มีโรคประจำตัวในระยะกำเริบ  5.หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์น้อยกว่า 4 เดือน หรือมีภาวะครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง จึงขอแนะนำให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลรักษาเป็นประจำ ก่อนการฉีดวัคซีน

                ทั้งนี้ โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคเกิดจากเชื้อไวรัส    ติดต่อกันได้ทางการหายใจ   มักระบาดในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว แต่ละปีมีคนไทยติดเชื้อ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากว่า 900,000 ราย ในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 3 ที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นปอดบวม พบได้ปีละ  26,637 ราย  เสียชีวิต 150 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขจัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันในกลุ่มเสี่ยง พบว่าแนวโน้มการป่วยและเสียชีวิตลดลง จากป่วย 115,183 ราย เสียชีวิต 126 ราย  ในปี 2553  เหลือป่วย 61,989 ราย เสียชีวิต 4  ราย  ในปี 2555 สำหรับในปี 2556 นี้ สำนักระบาดวิทยารายงานในรอบเกือบ 5 เดือนมีผู้ป่วย 18,674 ราย ไม่มีเสียชีวิต  นายแพทย์โอภาสกล่าว

 *************************    26  พฤษภาคม 2556



   
   


View 10    26/05/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ