“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 138 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดรวม 3 สายพันธุ์ ให้กลุ่มเสี่ยง 2 กลุ่ม รวม 3.5 ล้านคนได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่กำจัดสัตว์ปีก และประชาชน 4 กลุ่มใหญ่ได้แก่ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน- 2 ปี และผู้ป่วยทุกอายุที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค ตั้งแต่ 27 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นไป ที่โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลมักพบการระบาดในฤดูฝนและฤดูหนาว ในปี 2556 นี้กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าว ตั้งเป้าฉีดทั้งหมด 3 ล้าน 5 แสนคน จะเริ่มฉีดพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 โดยจะฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงที่เมื่อป่วยแล้วจะเจ็บป่วยรุนแรง 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.บุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่กำจัดสัตว์ปีก และกลุ่มที่ 2 คือประชาชนซึ่งมี 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป 2.กลุ่มหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป 3.กลุ่มเด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี และ4.ผู้ป่วยทุกอายุที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรคปอดปอดอุดกั้น หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด โดยสามารถเข้ารับบริการได้ฟรีที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ และโรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่เข้าร่วมโครงการกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า วัคซีนที่ใช้ในปีนี้เป็นชนิดรวม ป้องกันไข้หวัดใหญ่ซึ่งพบมากที่สุดในประเทศไทย 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์เอ เอช 1 เอ็น 1(H1N1) ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2(H3N2) และชนิดบี(B) หลังฉีดจะมีผลป้องกันโรคเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะลดการป่วยหรือลดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้ ซึ่งรัฐบาลได้เริ่มจัดบริการฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา และได้ผลดี
ทางด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยทั่วไปจะมีข้อห้ามใน 5 กลุ่มได้แก่ 1. เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน 2.ผู้ที่เคยแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือสารประกอบอื่นๆ หรือแพ้ไข่ไก่ แพ้ไก่อย่างรุนแรง 3.ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเฉียบพลัน มีไข้ 4.ผู้ที่มีโรคประจำตัวในระยะกำเริบ 5.หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์น้อยกว่า 4 เดือน หรือมีภาวะครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง จึงขอแนะนำให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลรักษาเป็นประจำ ก่อนการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคเกิดจากเชื้อไวรัส ติดต่อกันได้ทางการหายใจ มักระบาดในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว แต่ละปีมีคนไทยติดเชื้อ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากว่า 900,000 ราย ในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 3 ที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นปอดบวม พบได้ปีละ 26,637 ราย เสียชีวิต 150 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขจัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันในกลุ่มเสี่ยง พบว่าแนวโน้มการป่วยและเสียชีวิตลดลง จากป่วย 115,183 ราย เสียชีวิต 126 ราย ในปี 2553 เหลือป่วย 61,989 ราย เสียชีวิต 4 ราย ในปี 2555 สำหรับในปี 2556 นี้ สำนักระบาดวิทยารายงานในรอบเกือบ 5 เดือนมีผู้ป่วย 18,674 ราย ไม่มีเสียชีวิต นายแพทย์โอภาสกล่าว
************************* 26 พฤษภาคม 2556