สธ. เผยเหยื่อระเบิดที่หาดใหญ่ อาการหนักน่าห่วง 2 ราย อยู่ที่รพ.หาดใหญ่

กระทรวงสาธารณสุข เผยผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดกลางนครหาดใหญ่เมื่อคืนนี้ วันนี้กลับบ้านได้ 5 ราย เหลือนอนรักษา 10 ราย อาการสาหัสน่าห่วง 2 รายอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ โดย 1 รายเป็นชายสูงอายุมีเลือดออกกดเนื้อสมอง ไม่รู้สึกตัว อีก 1 รายอยู่ในไอซียู เป็นชายอายุ 20 ปี ผ่าตัดเย็บซ่อมตับ ลำไส้เล็ก ส่วนตับอ่อนฉีกขาดมาก ต้องใช้ผ้าก็อซกดรอยแผลฉีกขาดห้ามเลือด ให้เลือด 12 ยูนิต แพทย์ดูแลอาการใกล้ชิด วันนี้ (28 พฤษภาคม 2550) นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ระเบิดหลายแห่งในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2550 ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลกรุงเทพ-หาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ นายแพทย์มงคล กล่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 15 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 4 คน และเด็ก 3 คน โดยหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดสงขลา ได้นำผู้บาดเจ็บส่งรพ.ต่างๆ ในจังหวัดสงขลา ขณะนี้แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 5 คน เหลือผู้ที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 10 คน โดยอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 1 คน รพ.หาดใหญ่ 6 คน ในจำนวนนี้อาการหนัก 2 คน คนแรกคือ นายสุชาติ แซ่ตั้ง อายุ 60 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่กะโหลกศีรษะ สะเก็ดระเบิดฝังเนื้อสมองทั้งซ้ายและขวา มีเลือดออกกดเนื้อสมอง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-4 เซนติเมตร อาการสาหัส ไม่รู้สึกตัว รูม่านตาขยาย ไม่ตอบสนองต่อแสงทั้ง 2 ข้าง แพทย์ใส่เครื่องช่วยหายใจ วันนี้เริ่มมีอาการตอบสนองต่อการกระตุ้น ความดันโลหิตเริ่มต่ำเป็นครั้งคราว แพทย์เลือกวิธีรักษาแบบประคับประคองตามอาการไปก่อน ไม่ผ่าตัด เนื่องจากความดันโลหิตเริ่มต่ำลง ไม่คงที่ เนื้อสมองบอบช้ำมาก อีกทั้งเป็นผู้สูงอายุ เกรงว่าการผ่าตัดจะไม่ได้ผลดี และอาจเป็นอันตรายมากขึ้น คนที่ 2 คือนายนิวัฒน์ ชูชาติ อายุ 20 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ช่องท้อง และลำตัว แพทย์ผ่าตัดเย็บซ่อมตับและลำไส้เล็กที่ฉีกขาด และใส่ผ้าก็อซ กดรอยฉีกขาดที่ตับอ่อนเพื่อห้ามเลือด ใช้เวลาผ่าตัดนาน 5 ชั่วโมง ให้เลือดไปแล้ว 12 ยูนิต ขณะนี้ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ยังใช้เครื่องช่วยหายใจ ความดันโลหิต ชีพจรคงที่ ยังมีเลือดซึมจากแผลผ่าตัด แพทย์วางแผนผ่าตัดนำผ้าก็อซที่ใส่ห้ามเลือดไว้ออกในวันพรุ่งนี้ และดูแลอาการอย่างใกล้ชิด หากเลือดยังไม่หยุดไหลจากตับอ่อน จะพิจารณาให้ยาพิเศษเพื่อห้ามเลือดให้หยุดไหลต่อไป ส่วนผู้ป่วยอีก 4 รายอาการปลอดภัย ได้แก่ นางสุรีย์ โภคารัตน์ อายุ 46 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่หลัง ด.ช.วรวิทย์ แสงทวี อายุ 14 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำคอ นางเอื้องจวง แซ่ตั้ง อายุ 57 ปี มีแผลฉีกขาดที่หน้าท้องด้านขวา และน.ส.อักษร เสนาคชวงศ์ อายุ 30 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าท้อง ได้รับการผ่าตัดทำความสะอาดและตกแต่งบาดแผล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบาดแผลขนาดเล็ก คาดว่าอีก 4 – 5 วันจะให้กลับบ้านได้ ที่รพ.ราษฎร์ยินดี มีพักรักษาตัว 1 คน คือด.ช.กฤณ พานรัตนวดี อายุ 8 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่นิ้ว ที่รพ.สงขลานครินทร์ 1 คน คือนายช้าง แซ่ขวาง อายุ 24 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดเป็นแผลขนาดใหญ่ที่หน้าท้องและกระดูกขาแตกทั้ง 2 ข้าง แพทย์ผ่าตัดแล้ว และที่รพ.กรุงเทพ-หาดใหญ่อีก 2 คน คือนายทรงธรรม อัศวตั้งเจริญกุล ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาทั้ง 2 ข้าง และนายพรสิทธิ์ อิงควิโรจน์ มีอาการเจ็บบริเวณชายโครงและหูอื้อ ทุกรายอาการปลอดภัย แพทย์ได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยค่ารักษาทั้งหมดกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้รับผิดชอบตามสิทธิ ************************ 28 พฤษภาคม 2550