“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 136 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ 1 กรกฎาคม - VCT Day พร้อมพัฒนาระบบการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวี ในโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง ทั่วประเทศ สามารถแจ้งผลเลือดได้ภายในวันเดียว โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว สามารถรับการตรวจเลือดฟรีทุกสิทธิการรักษา ให้ผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็ว ช่วยลดการถ่ายทอดเชื้อให้แก่คู่ได้ถึงร้อยละ 96 เพื่อลดผู้ติดเชื้อรายใหม่ ลดการตายจากเอดส์ให้เป็นศูนย์ และจัดรณรงค์เชิญชวนประชาชนเข้ารับบริการตรวจฟรี ปีละ 2 ครั้ง
วันนี้ (1 กรกฎาคม 2556) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ แถลงข่าวมาตรการลดผู้ติดเชื้อเอชไอวี ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าลดปัญหาเอชไอวีให้เป็นศูนย์ภายในปี 2559 คือ ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไม่มีการเสียชีวิตจากเอดส์ และไม่มีการตีตราเลือกปฏิบัติ โดยกำหนดให้วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันรณรงค์ตรวจเอชไอวีแห่งชาติ หรือ VCT Day และตลอดเดือนกรกฎาคมของทุกปีเป็นเดือนรณรงค์สร้างความตระหนักให้ประชาชนทุกคนรู้ถึงความสำคัญและประโยชน์ของการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง สามารถเข้ารับบริการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีฟรี ปีละ 2 ครั้ง ทุกสิทธิ์การรักษา ซึ่งจะทำให้ช่วยลดการถ่ายทอดเชื้อให้แก่คู่ได้ถึงร้อยละ 96 และผู้ที่ติดเชื้อจะได้รับการดูแลและได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเมื่อระดับเม็ดเลือดขาวหรือซีดีโฟร์ (CD4) ลดลงเหลือต่ำกว่า 350 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิลิตร
ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัด ตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลศูนย์ พัฒนาการให้บริการตรวจเลือดให้รวดเร็วขึ้น สามารถแจ้งผลตรวจให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ไปรับบริการ (same day result) โดยยื่นบัตรประชาชนที่ห้องทำบัตร หรือติดต่อที่ห้องให้การปรึกษา เพื่อแจ้งความประสงค์แก่เจ้าหน้าที่ จะได้รับการปรึกษา ประเมินพฤติกรรมเสี่ยง ข้อมูลขั้นตอนในการตรวจเลือด และรับฟังผลเลือดภายในวันที่ตรวจ หากพบว่าติดเชื้อเอชไอวีจะได้รับการเจาะเลือดหาระดับซีดีโฟร์ และพบแพทย์เพื่อเข้าระบบการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้เปิดสายด่วนให้การปรึกษาโรคเอดส์แก่ประชาชนทุกวัน ทางหมายเลข 1663 ในเวลา 10.00 – 20.00 น.
นายแพทย์ประดิษฐ์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยเสี่ยงเกิดการระบาดโรคเอดส์ซ้ำสอง เนื่องจากประชาชนจำนวนมากไม่คิดว่าตนเองจะติดเชื้อเอชไอวี หรือมีความกังวล จึงไม่ไปรับการตรวจเลือด ซึ่งเป็นผลเสียมาก ทำให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีในวงกว้าง และทวีคูณ ข้อมูลจาก สปสช. รายงานว่าตลอดปี 2555 มีผู้สมัครใจเข้ารับบริการปรึกษาและตรวจหาเชื้อเอชไอวีรวม 562,542 คน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 547,407 คน พบติดเชื้อ 16,984 คนและในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 15,135 คน พบติดเชื้อ 306 คน จึงต้องเร่งรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ ชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย รวมถึงกลุ่มพนักงานบริการ และผู้ใช้สารเสพติด เข้ารับการตรวจเลือดให้มากที่สุด เพื่อให้ได้รับการรักษาโดยเร็ว
นอกจากนี้ นายแพทย์ประดิษฐ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันพบการติดเชื้อเอชไอวีสูงในกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) โดยมีข้อมูลจากการดำเนินงานที่คลินิกชุมชนสีลม ซึ่งตั้งอยู่ที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียน ถนนสีลม กทม. เป็นคลินิกที่ให้บริการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวี/โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และให้การรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ฟรี โดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อจริง คลินิกนี้เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข (TUC) กับกรมควบคุมโรค พบว่าผลการศึกษาปี 2548-2554 พบความชุกของการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มนี้สูงขึ้นจากร้อยละ 24.6 เป็นร้อยละ 29.4 และในช่วงเวลาเดียวกันพบความชุกของการติดเชื้อซิฟิลิสสูงขึ้นจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 12.5 ส่วนการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่สูงขึ้นจาก 2.8 คนต่อประชากร 100 คนต่อปี เป็น 7.9 คนต่อประชากร 100 คนต่อปี และการติดเชื้อซิฟิลิสรายใหม่สูงขึ้นจาก 0.0 คนต่อประชากร 100 คนต่อปี เป็น 7.1 คนต่อประชากร 100 คนต่อปี
การเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อฯ ดังกล่าวข้างต้น เป็นผลจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันทางทวารหนัก ซึ่งเป็นช่องทางหลักของการถ่ายทอดเชื้อในกลุ่มนี้ จึงควรรณรงค์สร้างความตระหนักและส่งเสริมให้มีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับทุกคน และเพิ่มการเข้ารับบริการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาโดยเร็ว
นายแพทย์ประดิษฐ์กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนเข้าถึงบริการปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี สามารถรู้ผลได้ในวันเดียว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ติดเชื้อที่ยังไม่รู้ตัวได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเร็วขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย องค์การแพธ กองควบคุมโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กทม. โรงพยาบาลบางรัก และ 1633 สายด่วนปรึกษาเอดส์ จัดกิจกรรม “1 ก.ค. วันรณรงค์ตรวจเอชไอวี...การเริ่มต้นที่จะบรรลุการลดผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้เป็นศูนย์ (getting to Zero)” โดยจะจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ให้บริการปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี ฟรี ที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ 2 แห่ง ทุกวันอาทิตย์ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ คือวันที่ 7, 14 และ 21 ก.ค. ที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน และอาทิตย์ที่ 28 ก.ค. ที่ลานกิจกรรมชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. รู้ผลหลังตรวจ 2 ชั่วโมง ซึ่งข้อมูลของผู้รับบริการจะมีระบบรักษาความลับ
ทั้งนี้ ในงานแถลงข่าว มีตัวแทนเยาวชนกว่า 10 คนยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขขอให้ผลักดันแก้ไขข้อบังคับแพทยสภา เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถรับการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีได้โดยไม่ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง เนื่องจากขณะนี้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น และไม่กล้าบอกเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองรู้ แนวโน้มการติดเชื้อเอชไอวี และการตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม ของวัยรุ่นมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหากข้อเสนอนี้ได้รับการแก้ไข จะทำให้ปัญหาทั้ง 2 เรื่องในกลุ่มวัยรุ่น และเยาวชนดีขึ้น และเข้าถึงบริการปรึกษาและได้รับการรักษาเร็วขึ้น
************************************ 1 กรกฎาคม 2556