วันนี้ (18 กรกฎาคม 2556 ) นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการการะทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และนายแพทย์นิพนธ์ โพธิพัฒนชัย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  ตรวจเยี่ยมบริษัทข้าวตราฉัตร ในเครือของบริษัทซี.พี ที่อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามด้านคุณภาพความปลอดภัยในการผลิตข้าวสารบรรจุเสร็จตามเกณฑ์มาตรฐานจีเอ็มพี   ในวันนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สุ่มเก็บตัวอย่างข้าวสาร วัตถุดิบ จากบริษัทข้าวตราฉัตร ทั้งก่อนผลิต ระหว่างการผลิต และภายหลังบรรจุเสร็จแล้ว จำนวน 7 ตัวอย่าง เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาการแพทย์ เพื่อวิเคราะห์มาตรฐานความปลอดภัย ได้แก่ ยาฆ่าแมลง เศษแมลง ความชื้น เชื้อรา สารฟอสฟิน และเมทิลโบรไมด์ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง จะทราบผลภายใน1 สัปดาห์   
 
นายแพทย์ประดิษฐ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งยกระดับมาตรฐานการผลิตข้าวสารให้เข้าสู่ระบบมาตรฐานจีเอ็มพี ทั้งหมดภายใน 6 เดือนนี้ เพื่อให้เป็นไป ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่342 พ.ศ. 2555 ว่า ด้วย เรื่องวิธีการผลิต เครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิต และการเก็บรักษาอาหารแปรรูป ที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย กำหนดให้สถานผลิตข้าวสารที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่ายต่อผู้บริโภค ต้องปฏิบัติตามประกาศฉบับดังกล่าว   เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ได้บริโภคข้าวอย่างมั่นใจ โดยได้ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จัดประชุมชี้แจงแนวทางและการอนุญาตข้าวบรรจุถุงแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2556 นี้ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ       
 
         นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า ภายใน 2  ปีนี้ จะยกเลิกการใช้สารเมททิล โบรไมด์   ( Methyl Bromide) รมควันข้าวเนื่องจากเป็นสารทำลายบรรยากาศ ไม่ได้ห้ามใช้เพราะความเป็นพิษ   สารชนิดนี้มีอยู่ในธรรมชาติอยู่แล้ว   โดยจะให้ใช้สารฟอสฟิน (Phosphine) มาใช้รมควันแทน   ซึ่งต้องใช้เวลาอบนานกว่า    โดยกระทรวงสาธารณสุขจะปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดค่าตกค้างของสารรมควันในข้าวสารบรรจุถุงฉบับใหม่ อ้างอิงตามาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ หรือโคเด็กซ์ (Codex)   จากเดิมกำหนดค่าเมทิล โบรไมด์ ตกค้างในธัญพืชไม่เกิน 50  มิลลิกรัม/กิโลกรัม และสารฟอสฟีน ไม่เกิน 0.1 มิลลิกรัม /กิโลกรัม ตามมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ หรือโคเด็กซ์ ( Codex) จะแก้ไขให้น้อยลงกว่าเดิม   ซึ่งได้ผ่านมติที่ประชุมของคณะกรรมการอาหารแล้วเมื่อวานนี้   โดยกำหนดให้ฟอสฟิน(ไฮโดรเจน ฟอสไฟต์ )มีปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดไม่เกิน 0.1 มิลลิกรัมของสารต่อ 1 กิโลกรัมของอาหาร  เมทิล โบรไมด์ กำหนดให้ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัม ของสารต่อ 1 กิโลกรัมของอาหาร   (หรือ สารโบรไมด์ อิออนไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ) และฟลูออไรด์ กำหนดให้ 0.1 มิลลิกรัมของสารต่อ 1กิโลกรัมของอาหาร เพิ่มเติมจากเดิมที่กำหนดเฉพาะสารกำจัดศัตรูพืช     โดยเร่งลงนาม ออกเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุขใช้โดยเร็วที่สุด เพื่อยกระดับข้าวสารบรรจุถุงสำเร็จที่จำหน่ายในท้องตลาดให้เป็นสินค้าที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ 
 
     อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขขอยืนยันในเรื่องของคุณภาพความปลอดภัยของข้าวสาร ว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดคือ ไม่มีความชื้น ที่ทำให้เกิดเเชื้อราอัลฟ่าท็อกซิน ทำให้เป็นมะเร็ง      ซึ่งผลการตรวจคุณภาพข้าวสารที่ผ่านมา มีค่าเป็นศูนย์เกือบทั้งหมด หรือหากพบ ก็พบอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด        
 
*********************************** 18 กรกฎาคม 2556
 
 


   
   


View 10    18/07/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ