กระทรวงสาธารณสุข เร่งปฏิรูปโครงสร้างกระทรวงฯ แบ่งบทบาทหน้าที่ในการเป็นผู้ให้บริการ ผู้ควบคุมกำกับกฎหมาย กฎระเบียบความปลอดภัยสุขภาพ และผู้ออกนโยบายชัดเจน ลดการทำงานซ้ำซ้อนระหว่างหน่วยงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพการบริการประชาชน คาดเริ่มใช้ในเดือนตุลาคม 2556

วันนี้ (25 กรกฎาคม 2556) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูงว่า ว่าการประชุมวันนี้ เป็นการติดตามความคืบหน้าการปฏิรูปกระทรวงสาธารณสุข ให้ทุกกรมนำเสนอแผนการปรับโครงสร้างของทุกกรมและสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตามแผนการปฏิรูปกระทรวงสาธารณสุข โดยให้แบ่งบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจนใน   3 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นผู้ให้บริการ (Provider) ส่วนการควบคุมกำกับ (Regulator)และส่วนที่เป็นผู้ออกและกำกับนโยบายสาธารณสุข (National Health Authority) ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ศึกษาแนวคิดดังกล่าวมาหลายปี ตรงกับที่ฝ่ายวิชาการ เช่น อาจารย์คณะแพทย์รามาธิบดีได้เสนอว่ากระทรวงสาธารณสุขควรแบ่งบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจน
 
นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า ในการปฏิรูปกระทรวงสาธารณสุขครั้งนี้ จะยังไม่มีการแก้ไขกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่จะใช้การแบ่งบทบาทหน้าที่ก่อน และปรับโครงสร้างให้มีผู้รับผิดชอบชัดเจน ไม่ก้าวก่ายการทำงานกัน และงานไม่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่งในวันนี้แต่ละกรมได้เสนอความคืบหน้า ทุกกรมมีแผนปฏิบัติการแล้ว และแบ่งบทบาทหน้าที่ใกล้จะแล้วเสร็จ เช่น สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ดูแลเรื่องนโยบายสาธารณสุขแยกชัดเจน กรมการแพทย์ มีบทบาทเป็นผู้ควบคุมกำกับ ดูแลมาตรฐานการให้บริการประชาชน กำหนดเทคโนโลยีทางการแพทย์ต่างๆ ที่ใช้รักษาโรคทั่วไปและโรคเฉพาะทางต่างๆ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลมาตรฐานการบริการของสถานบริการ ทั้งภาครัฐและเอกชนให้เป็นไปตามกฎระเบียบ เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนในการรับบริการสุขภาพ ไม่ได้ทำหน้าที่ให้บริการประชาชนโดยตรง เป็นต้น
 
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามการปรับโครงสร้าง บทบาทหน้าที่ของบางหน่วยงาน เช่น กลุ่มประกันสุขภาพ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง ยังมีบทบาทซ้ำซ้อนกัน คือเป็นทั้งผู้กำหนดนโยบาย และการเป็นผู้ปฏิบัติดูแลการเก็บเงินในระบบหลักประกันสุขภาพจึงมีข้อเสนอให้ทบทวนและปรับเป็นสำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินการคลัง และแยกเป็น 2 หน่วยงานอย่างชัดเจน โดยให้ทุกกรมไปปรับแก้ให้สมบูรณ์แบบ และนำมาเสนออีกครั้งใน 2 สัปดาห์หน้า คาดว่าจะเร่งให้แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2556 และเริ่มดำเนินการตามบทบาทโครงสร้างใหม่ ได้ในเดือนตุลาคม 2556 เป็นต้นไป  
 
“การปรับโครงสร้างบทบาทหน้าที่ของกรมต่างๆ ในครั้งนี้ เป็นปัจจัยสำคัญในการปฏิรูปกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและคุณภาพระบบบริการสาธารณสุขของประเทศไทย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต คุ้มค่ากับภาษี และเกิดประโยชน์กับประชาชนที่สุด ประชาชนจะได้รับการดูแลปกป้อง คุ้มครองความปลอดภัยทั้งเรื่องอาหาร ยา บริการรักษาพยาบาล การได้รับข่าวสารความรู้ด้านสุขภาพทำให้รู้เท่าทันกับปัญหาและภัยสุขภาพต่างๆดีขึ้น” นายแพทย์ประดิษฐกล่าว

********************************* 25 กรกฎาคม 2556



   
   


View 11    25/07/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ