กระทรวงสาธารณสุข เผยในรอบ 7 เดือนปีนี้ พบประชาชนเป็นโรคตาแดง 64,350 ราย โดยมักระบาดช่วงฤดูฝนเน้นย้ำระมัดระวังในเด็กเล็กที่ชอบเล่นน้ำ คนวัยทำงาน เมื่อเริ่มมีอาการระคายเคืองตา หรือตาอักเสบ ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำปะคบบริเวณดวงตา หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบตรวจรักษาทันทีได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่งไม่ควรซื้อยาหยอดตาใช้เอง ล้างมือให้สะอาด เลี่ยงการสัมผัสสิ่งของร่วมกันป้องกันการติดเชื้อได้
วันนี้ (4 สิงหาคม 2556) นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงฤดูฝน จะมีการระบาดของโรคตาแดง ซึ่งเกิดจากติดเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เยื่อบุตาอักเสบ โรคนี้จะมีการระบาดเป็นช่วงๆ ส่วนใหญ่พบมากในช่วงฤดูฝน เชื้อจะติดต่อกันง่ายและรวดเร็วจากการสัมผัสน้ำตาของผู้ที่เป็นโรค ส่วนใหญ่จะเกิดจากเชื้อไวรัสโดยปรากฎอาการ 2 ลักษณะ คือ ตาแดงอย่างเดียว และตาแดง ร่วมกับอาการเจ็บคอจากคออักเสบร่วมด้วย มักเป็นที่ตาข้างใดข้างหนึ่งก่อน แล้วติดต่อมายังตาอีกข้าง ใน 1-2 วัน บางรายอาจแพ้แสง เนื่องจากตาดำอักเสบ ทำให้เคืองตามาก และมีแผลที่ตาดำชั่วคราว
ได้ย้ำเตือนให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝนตกชุก หรือประสบภัยน้ำท่วม ให้ประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนประชาชนทุกคน ขอให้ใช้น้ำอาดล้างหน้า และชำระล้างร่างกาย หากเป็นไปได้ ไม่ควรลงเล่นน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะเด็กๆ เนื่องจากในท่วม จะพัดพาสิ่งสกปรกต่างๆ มูลสัตว์ ที่อยู่บนพื้นดินและแหล่งน้ำสกปรก แม้ว่าสภาพน้ำจะไม่ขุ่นก็ตาม หากน้ำเหล่านี้เข้าตา จะทำให้เกิดตาแดงได้ นายแพทย์ณรงค์กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2556 รายงานการเฝ้าระวังโรค ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าตั้งแต่เดือน มกราคม -23 กรกฏาคม 2556 ทั่วประเทศมีรายงานผู้ป่วยโรคตาแดง 64,350 ราย ไม่มีเสียชีวิต โดยพบในเพศชายมากว่าเพศหญิง อายุ 45-54 ปี จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 จังหวัดแรกได้แก่ ฉะเชิงเทรา แม่ฮ่องสอน อำนาจเจริญ หนองคาย และเชียงราย
ทางด้านนายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า หากมีอาการระคายเคืองตา ควรใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสะอาด ปิดบริเวณรอบดวงตา ประมาณ 20 นาที หากยังอาการไม่ดีขึ้น ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง เพื่อให้การรักษาเบื้องต้น ซึ่งทุกแห่งมีหยอดตา และ ยาแก้อักเสบอยู่แล้ว หากยังไม่หาย หรือไม่ดีขึ้น จึงไปพบจักษุแพทย์ ที่โรงพยาบาล ประการสำคัญ การใช้ยาหยอดตารักษาโรคตาแดง ควรใช้เฉพาะบุคคลที่ป่วย ไม่ควรใช้ยาหยอดตาหรือถ้วยใส่ยาล้างตาร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากถ้วยหรือปลายหลอดยาหยอดตาที่ใช้แล้ว จะมีเชื้อโรคติดอยู่ ทำให้เชื้อแพร่ระบาดติดต่อกันได้
นายแพทย์ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า โรคตาแดงจะไม่ติดต่อทางการสบสายตา ทางอากาศ หรือรับประทานอาหารร่วมกัน จะติดโดยตรงจากการสัมผัสเชื้อที่อยู่ในน้ำตา ขี้ตาของผู้ป่วย โดยจะเกิดอาการได้ใน 1-2 วัน และสามารถแพร่เชื้อติดต่อผู้อื่นได้ประมาณ 14 วัน โรคนี้จะติดต่อกันได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อยู่ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน ในการป้องกันโรค ขอให้ประชาชนล้างมือทุกครั้ง หลังหยิบสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ร่วมกันเช่น แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ ลูกบิดประตู ราวบันได ราวจับรถโดยสารสาธารณะ เป็นต้น หลังจากว่ายน้ำใน สระว่ายน้ำ หรือในแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วไป ควรรีบล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดทันที ส่วนผู้ป่วยโรคตาแดง ขอให้หยุดพักที่บ้านจนกว่าจะหาย เด็กนักเรียนให้หยุดเรียนไม่คลุกคลีกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการระบาด และระวัง แมลงหวี่ แมลงวันไม่ให้ตอมตาเนื่องจากจะทำให้เชื้อแพร่กระจายมากขึ้น
******************************************** 4 สิงหาคม 2556