รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอศรีมหาโพธิ และ อ.กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี แนะกินกล้วยน้ำว้าสุก สารพัดสรรพคุณต้านโรคภัย คลายเครียด ป้องกันโรคกระเพาะ ท้องเสีย ท้องผูก พร้อมส่งทีมนักจิตวิทยาลงพื้นที่ตรวจประเมินปัญหาสุขภาพจิต เพื่อให้การดูแลป้องกันปัญหาทำร้ายตัวเอง เปิดสายด่วนให้คำปรึกษาทางสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 และ 1667 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (27 กันยายน 2556) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย นพ.ธวัชชัย กมลธรรม ผู้ตรวจราชการเครือข่ายบริการสุขภาพที่ 6 และคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมมาตรการป้องกันน้ำท่วมที่รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่วัดหาดสะแก อ.เมือง โรงเรียนบ้านท่าตูม ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ โดยได้ปรุงผัดไทซึ่งเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนแจกจ่ายผู้ประสบภัย 500 จาน และลงเรือตรวจเยี่ยมประชาชนที่ติดอยู่ตามบ้านเรือน พร้อมมอบถุงยังชีพ ยาสามัญประจำบ้าน ยาสมุนไพร จำนวน 500 ชุด จากนั้นเดินทางไป อ.กบินทร์บุรี เยี่ยมผู้ประสบภัยที่วัดตรอกปลาไหล ต.ย่านรี พร้อมมอบถุงยังชีพและยาสามัญประจำบ้าน 250 ชุด ยาชุดสมุนไพรน้ำท่วม 500 ชุด
นายสรวงศ์กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้การดูแลสุขภาพผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดยให้กรมสุขภาพจิตจัดทีมนักจิตวิทยา ทั้งแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา ร่วมให้การดูแลปัญหาด้านจิตใจแก่ผู้ประสบภัย ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งที่จังหวัดปราจีนบุรี ส่วนใหญ่ประชาชนมีความเครียดเกือบทุกบ้านแต่อยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอสม. ประเมินและคัดกรองผู้มีความเครียด เพื่อให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ป้องกันปัญหาทำร้ายตนเอง อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีความเครียด วิตกกังวล ขอให้แจ้งอสม. เพื่อรับการดูแลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือโทรปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 และ 1667 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
“ได้ให้ทุกพื้นที่แจกกล้วยน้ำว้าให้ผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นผลไม่ใกล้ตัว หาได้ง่ายในหมู่บ้าน เนื่องจากมีสรรพคุณต้านโรคได้หลายโรค เช่น โรคกระเพาะอาหาร ท้องเสีย ท้องผูก อีกทั้งมีผลการวิจัยพบว่า กล้วยน้ำว้าสุกมีสารซีโรโทนิน (serotonin) ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดชื่น นอนหลับ โดยไม่ต้องพึ่งยานอนหลับ และมีวิตามินเอสูง บี และซี ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคควรรับประทานวันละ 1-2 ผล” นายสรวงศ์กล่าว
สำหรับด้านการป้องกันควบคุมโรคที่มักมากับน้ำท่วม เช่น อุจจาระร่วง ฉี่หนู ตาแดง น้ำกัดเท้า ไข้เลือดออก ได้ให้กรมอนามัย ดูแลด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม อาหาร และน้ำดื่มน้ำใช้ ซึ่งที่จังหวัดปราจีนบุรี ได้ระดมพลังอสม. ทหาร ท้องถิ่น มูลนิธิต่างๆ ร่วมกันจัดระบบกำจัดขยะ และสิ่งปฏิกูลต่างๆ เพื่อป้องกันโรคดังกล่าว และให้ตรวจคลอรีนตกค้างในน้ำประปาเทศบาล และประปาหมู่บ้านให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค โดยมีค่าคลอรีนตกค้างอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคือมากกว่า 0.02 พีพีเอ็ม และแจกหยดทิพย์ ซึ่งเป็นคลอรีนสำเร็จรูปใส่ฆ่าเชื้อโรคในน้ำที่ใช้ในบ้านเรือน อัตรา 1 หยดต่อ 1 ลิตรเพื่อปรับสภาพน้ำให้สะอาด สามารถนำมาบริโภคได้อย่างปลอดภัย
ด้านดร.นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การดูแลสุขภาพและป้องกันอันตรายต่างๆ ในช่วงน้ำท่วม ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อแนะนำ 5 ทางรอดปลอดโรค คือ 1. อย่าทิ้งขยะ อุจจาระ เศษอาหารลงในน้ำ ให้ใส่ถุงดำ มัดปากถุงให้แน่น 2. อย่าเล่นน้ำเน่าขัง เชื้อโรคอาจเข้าตา ปาก จมูก และบาดแผล อันตรายถึงตาย หากสัมผัสน้ำเน่าเสียต้องล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาด 3.กินอาหารปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด 4. หลังน้ำลด ล้างบ้านเรือน ห้องสุขา ภาชนะอุปกรณ์ต่าง ๆ และ 5.ช่วยกันล้างตลาด ประปาชุมชนและสถานที่สาธารณะตามหลักสุขาภิบาล เพื่อป้องกันโรคบิด อหิวาตกโรค ไทฟอยด์ ท้องร่วง ตาแดง โรคฉี่หนู แผลเน่า สมองอักเสบ
********************************** 27 กันยายน 2556