องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ จับมือกระทรวงสาธารณสุขไทย ศึกษากระบวนการพัฒนานโยบายอาหารปลอดภัยแบบสมดุลในระดับชาติและระยะยาว โดยใช้ไทยเป็นพื้นที่ต้นแบบในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อขยายผลใช้ทั่วโลก เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม2557 การศึกษาดังกล่าวจะใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ปัจจัยความเสี่ยงสุขภาพประชาชน เศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ความมั่นคงทางอาหารประกอบกัน 

             นายแพทย์ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากการร่วมประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระหว่างภูมิภาคขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ(FAO:Food and Agriculture Organization of the United Nations) และองค์การอนามัยโลก ที่สำนักงานใหญ่เอฟเอโอ ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลีเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่ประชุมได้ให้ความสนใจเรื่องความปลอดภัยอาหาร เนื่องจากขณะนี้ประชากรโลกเพิ่มขึ้นและปัญหาภาวะโลกร้อนอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตอาหาร การปนเปื้อนอาหารจากเชื้อโรคหรือสารเคมีอันตราย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

             นายแพทย์ชาญวิทย์กล่าวต่อว่า ในการส่งเสริมให้ทุกประเทศพัฒนาระบบอาหารปลอดภัย เอฟเอโอได้คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญจาก 10ประเทศรวมทั้งผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุขไทย ร่วมกันจัดทำคู่มือแนวทางการพัฒนานโยบายอาหารปลอดภัยแบบสมดุลในระยะยาว เพื่อใช้เป็นแนวทางการทำนโยบายอาหารปลอดภัยของ   แต่ละประเทศทั่วโลก ในส่วนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เอฟเอโอได้จัดทำโครงการความร่วมมือกับไทย เพื่อศึกษาเป็นพื้นที่ตัวอย่าง เนื่องจากไทยมีนโยบายในเรื่องนี้ชัดเจน โดยได้มอบหมายให้สำนักส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย  เป็นองค์กรหลักในการประสานงานความร่วมมือดังกล่าว   

               ทั้งนี้ในการศึกษากระบวนการพัฒนานโยบายอาหารปลอดภัยแบบสมดุลนี้ จะใช้ข้อมูลหลายส่วนประกอบกัน ได้แก่ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ด้านอาหารอิงตามมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ หรือโคเด็กซ์ (CODEX) ปัจจัยความเสี่ยงทางสุขภาพของประชาชนที่เกิดจากการบริโภคอาหารปนเปื้อนทั้งจุลินทรีย์อันตราย และสารเคมีต่างๆ  รวมทั้งด้านเศรษฐกิจการค้า ความมั่นคงทางอาหาร  การท่องเที่ยว  และระบบการจัดการในลักษณะของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคีทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน  ภายใต้นโยบายด้านสาธารณสุขของประเทศไทย คือสุขภาพดี เริ่มต้นที่นี่ ซึ่งการกำหนดนโยบายด้านอาหารอาจแตกต่างกันตามระดับเศรษฐานะของประเทศ หากเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา อาจต้องคำนึงถึงคือความมั่นคงทางอาหาร ปัญหาโภชนาการ รวมถึงการท่องเที่ยวและการส่งออกที่จะเสริมสร้างรายได้ของประเทศอีกด้วย

             ด้านนางจงกลนี วิทยารุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย กล่าวว่า โครงการความร่วมมือกับเอฟเอโอนี้  จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม2557  ประธานคณะทำงานหลักคือกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อกำหนดทิศทางร่วมกัน  โดยจะมีการจัดประชุมภาคีที่เกี่ยวข้องในประเทศ 2 ครั้ง  และระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเซียอีก 1ครั้งในเดือนตุลาคม 2557 นี้   ที่ผ่านมาได้ประชุมหารือความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหารจากเอฟเอโอใหญ่ และเอฟเอโอภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกับฝ่ายไทยประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ มูลนิธิชีววิถี 

***********   มกราคม  2557              



   
   


View 13    12/01/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ