ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งทั้งในกทม.และต่างจังหวัด เปิดให้บริการประชาชนตามปกติ เตรียมพร้อมหน่วยแพทย์ฉุกเฉินชั้นสูง 12 ทีม และส่งหน่วยปฐมพยาบาลเกาะติดพื้นที่ชุมนุมทุกจุด ให้การดูแลทุกฝ่าย ด้วยหลักจรรยาบรรณของวิชาชีพ และให้ 18 จังหวัด เตรียมพร้อมรับดูแลผู้บาดเจ็บหากสถานการณ์รุนแรง พร้อมให้ 3 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงเกิดเหตุรุนแรง ได้แก่ บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา และพิษณุโลก ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดรายงานเข้าส่วนกลางทุก 1 ชั่วโมง ให้ส่งทีมเข้าช่วยเหลือเร็วที่สุด
วันนี้ (13 มกราคม 2557) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชุมนุมทางการเมือง และประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปใน 30 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงและปริมณฑล เพื่อเตรียมพร้อมการรับมือเหตุชุมนุมทางการเมืองในวันนี้อย่างเต็มที่ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด
นายแพทย์ณรงค์กล่าวว่า ได้ย้ำให้หน่วยงานในสังกัดฯทั้งโรงพยาบาลทุกระดับที่อยู่ในกทม.และต่างจังหวัดและหน่วยบริหารทุกแห่ง เปิดให้บริการประชาชนตามปกติ ดูแลประชาชนอย่างเสมอภาค ตามจรรยาบรรณวิชาชีพ ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถและปรับการทำงานตามสถานการณ์ โดยจะประชุมติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทำงานเชื่อมโยงกับศูนย์ส่วนหน้า รพ.สงฆ์ ศูนย์เอราวัณ กทม. และศอ.รส. ในการปฏิบัติการทางการแพทย์จะทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน มูลนิธิ เครือข่ายแพทย์อาสา ขอให้ประชาชนมั่นใจได้
นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า การทำงานประกอบด้วย 3 ภารกิจหลัก ได้แก่ 1.การจัดหน่วยปฐมพยาบาลดูแลพื้นที่ชุมนุม 6 จุดจากทั้งหมด 26 จุด ร่วมกับหน่วยแพทย์อาสา และโรงเรียนแพทย์ 2.จัดหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินชั้นสูง 12 ทีมจากโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ได้แก่ รพ.ราชวิถี รพ.นพรัตนราชธานี รพ.เลิดสิน รพ.รามาธิบดี และทีมจาก 5 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ อุดรธานี สระแก้ว และนครสวรรค์ ทำงานร่วมกับทีมจากมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊งและร่วมกตัญญู และประสานทีมทหารเสนารักษ์ 12 ทีมจากกองทัพบก ร่วมดูแลช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยออกจากพื้นที่ชุมนุมในเขตรับผิดชอบและนำส่งโรงพยาบาล
และ3.การเตรียมโรงพยาบาลรอบๆ กทม. 18 จังหวัด ทั้งบุคลากร ห้องผ่าตัด ห้องไอซียู คลังเลือด และเวชภัณฑ์ พร้อมรับผู้บาดเจ็บ หากไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลในกทม.ได้ ได้แก่ ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สมุทรสาคร ราชบุรี นครปฐม อ่างทอง สุพรรณบุรี นครนายก ลพบุรี สิงห์บุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี ปราจีนบุรี นนทบุรี และปทุมธานี ได้ซักซ้อมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว
“จากการติดตามสถานการณ์ในต่างจังหวัด ขณะนี้เหตุการณ์ปกติ อย่างไรก็ตามได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมพร้อมทีมแพทย์กู้ชีพชั้นสูงและขั้นพื้นฐาน พร้อมให้การดูแลผู้เจ็บป่วยหากเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว โดยกำชับให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษใน 3 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ พระนครศรีอยุธยา และพิษณุโลก ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดรายงานเข้าส่วนกลางทุก1ชั่วโมง” นายแพทย์ณรงค์กล่าว
ด้านนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับที่จุดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ให้โรงพยาบาลราชวิถีตั้งเต๊นท์ให้บริการดูแลผู้ชุมนุมที่หน้าโรงพยาบาล และประสานเปิดเส้นทางให้รถพยาบาลวิ่งเข้า-ออกโรงพยาบาลราชวิถีไว้แล้ว ส่วนสถานการณ์ผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตจากเหตุชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2556 จนถึงเวลา 10.00 น.วันนี้ (13 มกราคม 2557) บาดเจ็บรวม 286 ราย ยังนอนรักษาในโรงพยาบาล 15 ราย รายล่าสุดเกิดขึ้นหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา ที่ถนนแจ้งวัฒนะ เป็นชาย อายุ 31 ปี ถูกยิงที่ลำคอด้านซ้ายถูกเส้นเลือดดำ ส่งรักษาที่รพ.มงกุฎวัฒนะ ขณะนี้ปลอดภัย ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย โดยในวันนี้ได้รับรายงานมีผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นชายอายุ 64 ปี เกิดอาการช็อคจากโรคเบาหวานเนื่องจากขาดยา ทีมแพทย์ฉุกเฉินได้นำส่งโรงพยาบาลราชบุรี โดยจะตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากประชาชนเจ็บป่วยฉุกเฉิน และเดินทางไปโรงพยาบาลไม่ได้ ขอให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนศูนย์เอเราวัณ 1646 สายด่วนกู้ชีพ 1669 และศูนย์กู้ชีพนเรนทร รพ.ราชวิถี 0 2354 8222 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทางด้านนายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้วางแผนดูแลสุขภาพจิตประชาชนหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการเดินทาง การเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตอยู่แล้ว ขอให้ญาติดูแลให้กินยาอย่างต่อเนื่อง อย่าให้ขาดยา พักผ่อนเพียงพอ และได้ให้สถาบันสมเด็จเจ้าพระยาและสถาบันกัลยาราชนครินทร์รองรับผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตกำเริบเฉียบพลัน ประชาชนสามารถโทรแจ้งได้ที่หมายเลข 1669 ในกรณียาหมดและเดินทางไปรับยาในโรงพยาบาลแห่งเดิมไม่ได้ สามารถไปรับยาได้ที่โรงพยาบาลในสังกัดกรมสุขภาพจิตที่ใกล้บ้าน หรือโทรสอบถามที่ 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี
******************************** 13 มกราคม 2557