ที่ โรงพยาบาลสุราษฏร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังนำคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานพัฒนาการจัดบริการสุขภาพให้แก่ประชาชน ในพื้นที่เขตบริการสุขภาพที่ 11 ซึ่งประกอบไปด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี และระนอง โดยได้รับฟังข้อมูลภาพรวมของเขตบริการสุขภาพ

             นายแพทย์วชิระ กล่าวว่า เขตบริการสุขภาพที่ 11 มีประชากรจำนวน 4 ล้านกว่าคน  มีสถานบริการในสังกัดอยู่ในพื้นที่ ประกอบด้วย  โรงพยาบาลศูนย์จำนวน 3 แห่ง โรงพยาบาลทั่วไป จำนวน 8 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน 76 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจำนวน 731แห่ง อีกทั้งมีสถานบริการที่สังกัดกรมและกระทรวงอื่นๆ รวมทั้งภาคเอกชน โดยมีโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เป็นโรงพยาบาลศูนย์แม่ข่าย
นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อว่า ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพของเขตบริการสุขภาพที่ 11เป็นการพัฒนาบริการในภาพรวม คือ พัฒนาตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ  โดยพัฒนาศักยภาพของศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้มีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมพื้นที่บริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้รับบริการในด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค ตลอดจนดูแลผู้ป่วยที่อาการไม่ซับซ้อน  การพัฒนาระดับทุติยภูมิ โดยเน้นพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลชุมชนขนาด60-120 เตียง  เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อน หรือควบคุมอาการของโรคไม่ได้  ลดภาระโรงพยาบาลขนาดใหญ่และช่วยเหลือโรงพยาบาลในเครือข่ายที่เล็กกว่า  
ส่วนการพัฒนาโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ คือ ระดับโรงพยาบาลศูนย์  ให้สามารถดูแลผู้ป่วยในเครือข่ายที่อาการซับซ้อน ลดการส่งต่อที่ไม่จำเป็น และให้มีความร่วมมือและช่วยเหลือกันระหว่างโรงพยาบาลทุกระดับแบบพี่ช่วยน้อง ลดการส่งต่อผู้ป่วยไปนอกเครือข่าย  โดยจัดแผนพัฒนาระบบความเชี่ยวชาญไว้ 12สาขา รวม 13 กลุ่มโรค เช่นโรคมะเร็ง หัวใจ เน้นการพัฒนาตามความต้องการสำคัญเร่งด่วนในแต่ละสาขาก่อน   มีการสนับสนุนทรัพยากรและกำหนดแผนการขับเคลื่อนทั้งระยะสั้นและระยะยาว อย่างชัดเจน   เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพทั้งด้านการรักษาพยาบาล(Quality of care )ลดอัตราตาย อัตราป่วย และพิการ  และคุณภาพการบริการ( Quality of service )  เช่นลดระยะเวลารอคอย   ลดความแออัด คิวบริการสั้นลง
 นายแพทย์วชิระกล่าวต่อว่า แผนการพัฒนาบริการสาขาต่างๆ เช่น สาขาโรคหัวใจ โดยการลดอัตราเสียชีวิตโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน สาขาอุบัติเหตุ จะเพิ่มการเข้าถึงบริการด้วยระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่มีคุณภาพ สาขาโรคมะเร็ง จะรณรงค์ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเฝ้าระวังและค้นหาความผิดปกติในเบื้องต้นด้วยตนเองได้ และการตรวจคัดกรอง สามารถวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สาขาโรคไต จัดทำแนวทางการค้นหา วินิจฉัย รักษาโรคไตเรื้อรัง และสนับสนุนให้มีหน่วยฟอกไตในโรงพยาบาลชุมชนขนาด 120 เตียง ขึ้นไป สาขาโรคตา เน้นการลดสาเหตุของตาบอดจากต้อกระจกและเบาหวานขึ้นจอตา ส่วนสาขาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง จะมุ่งเน้นการจัดคลินิกบริการมีระบบการติดตามดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้าน และกระตุ้นให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพ สาขาปฐมภูมิทุติยภูมิและสุขภาพองค์รวม เน้นกระจายบริการผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ลดความแออัดของโรงพยาบาลแม่ข่าย เป็นต้น               
 ************************** 21 กุมภาพันธ์ 2557


   
   


View 9    21/02/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ