กระทรวงสาธารณสุข ตั้งศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคมะเร็งในภาคอีสาน  ประจำเขตบริการสุขภาพที่ 7  เพิ่มอีก 2 แห่งที่รพ.ขอนแก่น และรพ.ร้อยเอ็ด  หลังพบโรคมะเร็งเป็นสาเหตุเสียชีวิตของประชาชนในขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์และมหาสารคาม สูงอันดับ 1  และป่วยรายใหม่เพิ่มปีละ4000-5000 ราย  อันดับ1 คือมะเร็งตับ รองลงมาคือมะเร็งเต้านม  จะลดคิวรอฉายแสงจาก 6-8  เดือน เหลือเพียง 1 เดือน  คาดจะให้บริการได้ในเร็วๆนี้ 

นายแพทย์ณรงค์  สหเมธาพัฒน์  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  พร้อมด้วยนายแพทย์วชิระ  เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ  ตรวจเยี่ยมราชการที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด  เพื่อติดตามระบบการจัดบริการของเขตบริการสุขภาพที่ 7   ซึ่งประกอบด้วย 4 จังหวัดได้แก่ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น และมหาสารคาม  ดูแลประชาชนประมาณ 5 ล้านคน โดยมี นายแพทย์รัฐวุฒิ สุขมี ผู้ตรวจราชการประจำเขต นำเสนอภาพรวมผลการพัฒนาของสถานบริการสาธารณสุขระดับต่าง ๆ ในพื้นที่ 

นายแพทย์ณรงค์กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ พบว่าในเขตบริการสุขภาพที่ 7  มีความก้าวหน้าในการบริหารและจัดระบบบริการดูแลประชาชน เชื่อมโยงการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยร่วมกัน ระหว่างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ลงไปถึงระดับเล็กสุดคือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่อยู่ภายในเขตสุขภาพและภายในจังหวัดเดียวกัน    ที่สำคัญได้ใช้ข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลรักษาผู้ป่วย นำไปสู่การจัดระบบการแก้ไขป้องกันในระดับพื้นที่  เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยด้วย เช่น โรคมะเร็ง  ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชาชนในเขตสูงเป็นอันดับ 1  ป่วยรายใหม่ปีละ 5,000-6,000  ราย  ที่พบมากอันดับ 1 ได้แก่ มะเร็งตับและท่อน้ำดี  รองลงมาคือมะเร็งเต้านม  มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งปอด ผู้ป่วย  1ใน 3  ไปพบแพทย์เมื่อเซลล์มะเร็งลุกลามไปแล้ว  ทำให้โอกาสการมีชีวิตรอดสั้นลง 

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า  ที่ผ่านมาในพื้นที่ดังกล่าวมีศูนย์เชี่ยวชาญรักษาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และที่จังหวัดอุบลราชธานี   ทำให้ผู้ป่วยต้องรอคิวรักษานาน โดยเฉพาะการฉายแสง  เฉลี่ยรายละ 6-8 เดือน  บางรายอาจไม่ทันการ  จึงได้วางแผนจัดบริการเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการเร็วขึ้นและใกล้บ้าน  โดยเพิ่มศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคมะเร็งทุกชนิด 2 แห่ง คือที่โรงพยาบาลขอนแก่น  เปิดบริการตั้งแต่ต้นปี  2557 เป็นต้นมา  ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดซื้อเครื่องฉายแสงรักษา วงเงินประมาณ 80 ล้านบาท  คาดว่าจะติดตั้งและให้บริการสมบูรณ์แบบประมาณเตือนตุลาคม 2557    และแห่งที่ 2 คือโรงพยาบาลร้อยเอ็ด  ซึ่งเน้นความเชี่ยวชาญรักษาโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดีเป็นพิเศษ จะส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงบริการรวดเร็วขึ้น  รอคิวฉายแสงไม่เกิน    1  เดือน

ทางด้าน นายแพทย์วชิระ  เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า  ในเรื่องโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี  กระทรวงสาธารณสุขได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ทรงสนพระทัยโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมกินปลาน้ำจืดเกล็ดขาวดิบ   และให้มีความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลร้อยเอ็ด กับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ รวมทั้งการศึกษาวิจัยโรคมะเร็งตับเพื่อการป้องกันในระยะยาวต่อเนื่องร่วมกับประเทศสหรัฐอเมริกา ในพื้นที่ อ.พนมไพร  ผลการศึกษาเบื้องต้น  โดยตรวจอุจจาระหาไข่พยาธิใบไม้ตับจำนวน 14,000 ราย พบผู้ป่วยที่เริ่มมีความผิดปกติที่ตับ จำนวน 40 ราย  และในปีนี้จะขยายศึกษาใน อ.โพนทอง  อ.เมยวดี และ อ.โพธิ์ชัยด้วย  ซึ่งจะทำให้สามารถค้นหาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้ตั้งแต่เริ่มมีความผิดปกติที่เซลล์  และให้การรักษา ป้องกันการเสียชีวิตได้  โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเดินหน้าจัดแผนการจัดบริการรักษาโรคที่ซับซ้อน ควบคู่ไปกับการป้องกันการป่วยจากโรคนั้นๆในระดับตำบลและระดับอำเภอไปพร้อมๆกัน เช่นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง  เป็นต้น 

********************** 26 กุมภาพันธ์ 2557



   
   


View 13    26/02/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ