สาธารณสุขเผยขณะนี้โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เล่นงานคนไทยป่วยกว่า 10 ล้านคน เหตุจากโรคอ้วน พบร้อยละ 50 ยังไม่รู้ว่าตัวเองป่วย ใช้งบกว่า 56 ล้านบาท ติวเข้ม อสม. 2 แสนคนทั่วประเทศ ก่อนเดินหน้ารณรงค์คัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิตสูงครั้งใหญ่เดือนสิงหาคมนี้
วันนี้ (27 มิถุนายน 2550) ที่จังหวัดขอนแก่น นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการภูมิปัญญา อสม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาสุขภาพภาคประชาชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ทางสุขภาพ และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ อสม.ดีเด่น โดยมี อสม. เข้าร่วมประชุมจาก 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 5,000 คน
นายแพทย์วัลลภ กล่าวว่า อสม.เป็นกำลังสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่ช่วยดูแลสุขภาพในชุมชนมากว่า 30 ปี ทั้งงานอนามัยแม่และเด็ก งานควบคุมโรค ยาเสพติด เป็นต้น ปัจจุบันทั่วประเทศมี อสม.กว่า 800,000 คน อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 350,000 คน ขณะนี้โรคติดต่อต่างๆ ที่เคยเป็นสาเหตุการเจ็บป่วยพบลดน้อยลง ในขณะที่โรคไม่ติดต่อที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ โรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจและหลอดเลือด ซึ่ง อสม.ต้องได้รับการพัฒนาความรู้ให้รู้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง
นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อว่า สาเหตุของการเกิดโรคที่สำคัญมาจากความอ้วน โดยพบคนไทยป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง 10 ล้านคน รู้ตัวว่าป่วยร้อยละ 30 ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอาการแล้ว 3 ล้านคน แต่รู้ตัวว่าป่วยเพียงร้อยละ 50 ผู้ป่วยเหล่านี้หากรักษาไม่ต่อเนื่องจะเกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรง ที่พบได้บ่อยๆ ในโรคเบาหวานคือ ไตเสื่อมร้อยละ 44 จอประสาทตาเสื่อมร้อยละ 30 หัวใจขาดเลือดร้อยละ 8 อัมพาตหรืออัมพฤกษ์ร้อยละ 4.4 หลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ ทำให้ขาดเลือดและเกิดภาวะเนื้อตายที่เท้า ต้องตัดทิ้งร้อยละ 2 ตาบอดร้อยละ 1 เป็นต้น ส่วนโรคแทรกซ้อนในความดันโลหิตสูง คือ เส้นเลือดสมองแตก อัมพาต ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาจำนวนมาก
นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้เด็กไทยอายุ 2-18 ปีจำนวน 17.6 ล้านคนเป็นโรคอ้วนร้อยละ 8 กลุ่มวัยรุ่นอายุ 13-18 ปีเป็นวัยที่เป็นโรคอ้วนมากที่สุด คือร้อยละ 9 โดยพบในกรุงเทพมหานครมากสุดร้อยละ 12 รองลงมาได้แก่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้เด็กและวัยรุ่นที่อ้วนจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่อ้วนได้ถึงร้อยละ 30 สำหรับปัจจัยที่ทำให้อ้วนนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรม เช่น การขาดการออกกำลังกาย นั่งดูทีวี เล่นคอมพิวเตอร์ทั้งวัน กินอาหารขยะ เช่น ขนมกรุบกรอบ น้ำหวาน อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น
ทั้งนี้ ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2550 จะจัดอบรมพัฒนาความรู้ในด้านต่างๆ ให้ อสม. เพื่อให้ อสม.นำความรู้ไปถ่ายทอดในชุมชน รวมทั้งสามารถคัดกรอง ค้นหาผู้ป่วยโรคต่างๆ อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปัญหาสุขภาพจิตแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะคัดเลือก อสม.ทั่วประเทศ 2 แสนคนมาอบรม ใช้งบประมาณของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 56 ล้านบาท และเดือนสิงหาคม จะให้อสม.ทุกหมู่บ้านรณรงค์วัดความดันโลหิต ผู้ที่มีอายุ 35 ปี ขึ้นไปพร้อมกันทั่วประเทศ คาดว่าจะคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงและผู้ที่มีแนวโน้มจะป่วยได้อย่างน้อย 10 ล้านคน นายแพทย์วัลลภ กล่าว
*********************************** 27 มิถุนายน 2550
View 9
27/06/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ