ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนประชาชนให้ระวังภัยอาหารและน้ำช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อลดความเสี่ยงป่วยโรคอุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ จากเมนูอาหาร 8 ชนิด อาทิ อาหารปรุงจากกะทิ อาหารกล่อง แนะอาหารทะเลสดให้ปรุงสุก หลีกเลี่ยงการลวก พล่าสุกๆ ดิบๆ ชี้ช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ พบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงแล้ว 3 แสนราย เสียชีวิต 3 ราย  แนะพ่อค้าแม่ค้า น้ำแข็งสำหรับบริโภคไม่ควรแช่รวมกับอาหารดิบจำพวกเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ชี้ความเย็นช่วยให้เชื้อโรคมีอายุนานขึ้น

นายแพทย์ณรงค์  สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข   ให้สัมภาษณ์ว่า สภาพอากาศร้อนอบอ้าว ในฤดูร้อน จะทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย ประชาชนมีความเสี่ยงเจ็บป่วยจากโรคระบบทางเดินหารสูงกว่าฤดูกาลอื่นๆ จากข้อมูลรายงานของสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ 1 มกราคม – 7 เมษายน 2557 ทั่วประเทศพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษแล้ว 34,378 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และพบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง 330,485 ราย เสียชีวิต 3 ราย  ดังนั้นในช่วงหยุดฉลองเทศกาลสงกรานต์ 12-16 เมษายน 2557 นี้  ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ปรุงเองที่บ้าน   อาหารสั่งซื้อ หรือออกไปรับประทานอาหารตามร้านนอกบ้าน
 
นายแพทย์ณรงค์กล่าวว่า อาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร ประชาชนควรเพิ่มความใส่ใจเป็นพิเศษ  ได้แก่ เมนูอาหาร  8  ชนิด ได้แก่ 1.อาหารปรุงด้วยกะทิ  2.ขนมจีน  3.อาหารทะเลสด  4.อาหารปรุงสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ ก้อย ยำ พล่า  5.อาหารถุง อาหารกล่อง อาหารห่อ 6.ส้มตำ  7.อาหารค้างมื้อ และ 8.น้ำดื่มและน้ำแข็ง   โดยอาหารที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบ  ควรกินเฉพาะที่ปรุงสุกใหม่  หากเหลือแล้วไม่ควรเก็บไว้เพราะจะบูดเสียง่าย ส่วนเส้นขนมจีนที่ทำจากแป้งหมักมักจะเสียง่าย  ไม่ควรทิ้งค้างคืน  ผักสดที่กินกับขนมจีนต้องล้างให้สะอาด ในกลุ่มของอาหารทะเล ขอให้ปรุงสุก หลีกเลี่ยงการปรุงโดยวิธีลวกหรือพล่าสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะ กุ้ง หอย ปลาหมึก เช่นเดียวกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ หมู ไก่ และไข่  ส่วนประเภทอาหารถุง อาหารกล่อง หรืออาหารห่อพร้อมบริโภค  ในการบรรจุควรแยกกับข้าวออกจากกับข้าว และควรรับประทานไม่เกิน 2-4 ชั่วโมงหลังจากปรุง
 
ส่วนส้มตำซึ่งเป็นอาหารยอดฮิตทุกฤดูกาล ในฤดูร้อนต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากในส้มตำมีเครื่องปรุงส่วนประกอบมากมาย อาทิ ปลาร้า ปูดองดิบหรือต้มไม่สุก มะละกอดิบ มะเขือเทศ ผักดิบแกล้ม  พริกขี้หนูที่ล้างไม่สะอาดหรือไม่ได้ล้าง อาจมีเชื้อโรคหรือสารเคมีตกค้าง  หากแม่ค้าที่ไม่ใส่ใจความสะอาดและขาดสุขนิสัยที่ดี ล้วนนำมาสารพัดโรคได้  สุดท้ายคือน้ำดื่มและน้ำแข็ง ขอให้ดื่มน้ำบรรจุขวดที่มีเครื่องหมาย อย.รับรอง และเลือกขวดที่มีฝาปิดสนิท ส่วนน้ำแข็งควรเลือกชนิดบรรจุถุงที่มีเครื่องหมาย อย. หรือที่เรียกว่าน้ำแข็งหลอด และขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้า ไม่ควรนำอาหารดิบจำพวกเนื้อสัตว์และอาหารทะเลรวมทั้งเครื่องดื่มกระป๋องแช่รวมในถังน้ำแข็งที่ใช้บริโภค เพราะจะทำให้น้ำแข็งปนเปื้อนเชื้อโรค และความเย็นยังช่วยให้เชื้อโรคมีชีวิตได้นานและแบ่งตัวได้ดีขึ้น 
 
ด้าน นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าเพื่อความปลอดภัยจากโรคระบบทางเดินอาหาร ขอแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติให้เป็นนิสัย 3 ประการ คือให้ “กินอาหารสุกร้อน ใช้ช้อนกลาง และต้องล้างมือเป็นประจำ” สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ขอให้พ่อแม่ดูแลเรื่องการกินอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเด็กวัยนี้นอกจากจะมีภูมิคุ้มกันโรคต่ำแล้ว ยังดูแลตัวเองไม่เป็น กินและหยิบอาหารเข้าปากแบบไร้เดียงสา จึงมีโอกาสติดเชื้อง่าย  
 
               ******************************** 12 เมษายน 2557


   
   


View 11    12/04/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ