แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตา เตือนภัยพนักงานโรงงานน้ำอัดลม-โซดา พ่อค้าแม่ค้าร้านขายของชำ และผู้นิยมดื่มน้ำอัดลมบรรจุขวดแก้ว ฝาจีบโลหะ ให้ระวังในช่วงหน้าร้อน อากาศร้อนจัด ขวดหรือฝาจีบระเบิดใส่ดวงตา เนื่องจากความร้อน จะทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ในขวด ขยายตัว ดันฝาจีบขวดหลุดกระเด็นออก หรือขวดแตกใส่หน้า หากถูกดวงตา ทำให้ตาดำเป็นแผล มีอันตรายขั้นตาบอดได้ ขณะนี้พบผู้ป่วยแล้ว แนะวิธีป้องกันให้ใช้กระสอบหรือผ้าหนาๆ คลุมบนฝาขวดขณะขนย้าย และเก็บน้ำอัดลมในที่ร่ม ไม่แนะนำให้แช่ในช่องแช่แข็งเป็นเวลานาน  หรือเปิดขวดโดยใช้ฝาจีบงัดกันออก เสี่ยงแรงระเบิดเป็นอันตรายที่มือ นิ้ว

          นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา มีคนงานโรงงานผลิตน้ำอัดลม 1 ราย ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา เนื่องจากขวดน้ำอัดลมระเบิด และฝาจีบปิดขวดกระเด็นใส่ดวงตา ขณะทำงานขนย้ายน้ำอัดลมที่บรรจุขวดแล้ว  แรงระเบิดทำให้แก้วตาดำเป็นแผล ฉีกขาด และมีเลือดออกช่องหน้าม่านตา ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์  เพื่อรักษาแผลให้หาย ป้องกันการติดเชื้อ และให้เลือดที่ออกในช่องม่านตาหยุดไหลและถูกดูดซึมตามธรรมชาติ จากการสอบถามผู้ป่วยพบว่าขวดที่ระเบิดใส่ เป็นขวดแก้วบรรจุน้ำอัดลมที่บรรจุก๊าซและปิดด้วยฝาจีบโลหะ เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งการเกิดการระเบิดของขวดน้ำอัดลม เกิดขึ้นได้ทั้งจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น หรือจากการกระแทกขณะขนส่ง โดยที่คนงานไม่มีการป้องกันตัวแต่อย่างใด 

          นายแพทย์ฐานปนวงศ์กล่าวต่อว่า  น้ำอัดลม เป็นเครื่องดื่มที่ประชาชนนิยมดื่มในช่วงกลางวัน โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน เครื่องดื่มประเภทนี้ จะอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปในขวด เพื่อให้มีความซ่า เพิ่มความสดชื่นแก่ร่างกาย เมื่อขวดน้ำอัดลมถูกแดดหรืออยู่ในอากาศที่ร้อนจัด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในขวดจะขยายตัว ดันฝาขวดและขวดแก้วแตก โดยเฉพาะโซดาจะมีปริมาตรก๊าซสูงกว่าน้ำอัดลมชนิดอื่นๆ จึงมีโอกาสเสี่ยงเกิดการระเบิดได้ง่ายกว่าด้วย โดยหากฝาจีบปิดขวดหรือเศษแก้วที่แตก กระเด็นใส่หน้า ถูกดวงตาซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญและมีความบอบบางมาก หากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง มีบาดแผลที่ตาดำ หรือมีเลือดออกในช่องหน้าม่านตา อาจทำให้ตาบอดได้ หรืออาจระเบิดระหว่างเปิดฝาขวดใส่มือ  ทำให้เกิดบาดแผล หรือนิ้วมือขาดได้เช่นกัน 

               “ผู้ที่มีความเสี่ยงถูกแรงระเบิดจากขวดน้ำอัดลม ได้แก่พนักงานในโรงงานผลิตน้ำอัดลมหรือโซดาบรรจุขวดแก้ว พ่อค้า แม่ค้าร้านขายของชำ รถเร่  และประชาชนที่นิยมดื่มน้ำอัดลม ซึ่งสภาพอากาศในเดือนเมษายนนี้ เป็นช่วงที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนจัด  จึงมีความเป็นห่วงเกิดอันตรายจากเรื่องนี้” นายแพทย์ฐาปนวงศ์กล่าว

          นายแพทย์ฐาปนวงศ์กล่าวต่อไปว่า วิธีการป้องกันอันตรายดังกล่าว มีข้อแนะนำดังนี้ 1.ในกลุ่มพนักงาน โรงงานผลิตน้ำอัดลมชนิดบรรจุในขวดแก้ว ฝาจีบ ขอให้เพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะขณะเข็นรถขนย้ายลังบรรจุ  ต้องระวังอย่าให้เกิดการกระแทก ควรใช้กระสอบป่านหรือผ้าหนาๆ คลุมบนลังน้ำอัดลมไว้ เพื่อป้องกันขวดหรือฝาจีบกระเด็นใส่หากขวดระเบิด 2.กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าร้านขายของชำ และประชาชนทั่วไป ให้เก็บวางลังน้ำอัดลมไว้ในที่ร่ม ในการแช่น้ำอัดลมขวดแก้วในตู้เย็นที่เย็นจัด ให้วางลักษณะตั้งขวด แต่หากวางขวดในลักษณะนอน ขอให้หันด้านที่มีฝาขวดไว้ด้านใน หันก้นขวดออกด้านนอก และไม่ควรแช่น้ำอัดลมในช่องแช่แข็งเป็นเวลานาน เนื่องจากความเย็นจะทำให้น้ำเกิดการแข็งตัวและขนาดใหญ่ขึ้น ขณะที่ขวดมีขนาดเท่าเดิม ทำให้เหลือพื้นที่ว่างน้อยลง ก๊าซจะอัดตัวกันแน่นขึ้น  แรงดันภายในขวดสูง ทำให้ขวดระเบิดออก                                                        

นอกจากนี้ ขอแนะนำว่า ในช่วงที่มีอากาศร้อนอบอ้าว อย่าเปิดฝาขวดโดยใช้มือหรือใช้ฝาขวด 2 ขวดมางัดกัน และอย่าเปิดฝาทันที เพราะอาจทำให้ฝาขวดกระเด็นโดนตา มือ หรืออวัยวะอื่นๆ จนเกิดการบาดเจ็บได้ วิธีที่ดีที่สุดคือให้ใช้อุปกรณ์เปิดขวด ก่อนเปิดให้ใช้ผ้าขนหนูพันที่เปิดขวด และค่อยๆ เปิดฝาขวดทีละน้อย เพื่อให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ค่อยๆ ไหลออกมา  ลดแรงดันของก๊าซในขวดลงก่อน นายแพทย์ฐาปนวงศ์กล่าว

 

 *********************************** 20 เมษายน 2557



   
   


View 12    20/04/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ