“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 140 View
- อ่านต่อ
สาธารณสุข เผยต้นปีนี้พบผู้ป่วยไข้เลือดออกแล้วกว่า 3,000 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต เพราะหน้าฝนยุงจะชุกชุมมากที่สุด ประชาชนทุกวัยมีโอกาสเสี่ยงป่วยสูงกว่าฤดูกาลอื่น ขอให้ทุกบ้านช่วยกันกำจัดลูกน้ำยุงลายทุก 5-7 วัน พร้อมแนะวิธีดูแลผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออก เช่น เช็ดตัวบ่อยๆ ช่วยลดไข้ ดื่มน้ำเกลือแร่หรือน้ำผลไม้ คอยสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย ช่วงสำคัญที่สุดคือช่วงที่ไข้ลดลงประมาณวันที่ 3-4 หากพบซึมลง กินและดื่มไม่ได้ ขอให้สงสัยว่าอาจเกิดอาการช็อก ให้รีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อรักษาให้ทันท่วงที
วันนี้(14 พฤษภาคม 2557) นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการพบยุงยักษ์ที่จังหวัดชัยภูมิ ว่า ยุงยักษ์จัดเป็นยุงรำคาญชนิดหนึ่ง ยุงชนิดนี้ไม่นำเชื้อโรคไข้เลือดออกมาสู่คน ไม่น่ากลัว ส่วนยุงที่น่ากลัวและนำโรคมาสู่คนและอยู่ใกล้ตัวหรืออยู่ในบ้านหลังเดียวกับประชาชน คือ ยุงลาย ซึ่งมีตัวเล็กกว่า ยุงชนิดนี้พบได้ตลอดปี แต่จะพบมากในช่วงฤดูฝน ซึ่งขณะนี้หลายที่มีฝนตก ทำให้เกิดแอ่งน้ำขังหรือมีน้ำขังอยู่ตามเศษวัสดุ เศษภาชนะต่างๆ กล่องโฟม จานรองกระถางต้นไม้ และกาบใบไม้ กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายได้ ยุงลายจะวางไข่ตามภาชนะที่มีน้ำขัง ซึ่งเป็นน้ำนิ่ง ใส และสะอาด ซึ่งน้ำฝนเป็นน้ำที่ยุงลายชอบวางไข่มากที่สุด เมื่อจำนวนยุงลายเพิ่มมากขึ้นก็มีโอกาสกัดคนและแพร่โรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นตามมาเช่นกัน เพราะประชาชนทุกวัยเสี่ยงป่วยพอๆกัน
นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ และมอบหมายให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ร่วมกับภาคีเครือข่าย เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำในชุมชน ครู นักเรียนและประชาชน ร่วมมือกันกำจัดลูกน้ำยุงลายทุก 5-7 วัน หรือป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ตามแหล่งน้ำสะอาด ซึ่งเป็นวิธีการลดจำนวนตัวยุงลายตัวแก่อย่างได้ผลดี โดยเน้นกิจกรรม 5ป 1ข ได้แก่ 1.ป ปิดฝาภาชนะกักเก็บน้ำทุกชนิด 2.ป เปลี่ยนน้ำทุกๆ 7 วัน 3.ป ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะกักเก็บน้ำ 4.ป ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ5.ป ปฏิบัติเป็นประจำให้เป็นนิสัย ส่วน 1ข คือ ขัดภาชนะที่อาจมีคราบไข่ยุงเกาะอยู่ รวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันไม่ให้ยุงกัดด้วยการนอนในมุ้งและทายากันยุง และการค้นหาผู้ป่วยโดยเร็ว เพราะหากผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออกและได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ อย่างถูกต้อง จะลดจำนวนผู้ป่วยและลดการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกได้
ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกที่พบในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดจากไวรัสเดงกี่ ซึ่งติดต่อคนสู่คนได้ โดยมียุงลายบ้าน เป็นตัวการนำเชื้อโรคที่สำคัญ โดยยุงตัวเมีย ซึ่งจะออกหากินในช่วงกลางวันและดูดเลือดคนเป็นอาหาร เมื่อยุงตัวนี้ไปกัดผู้ป่วยและไปคนอื่นอีกก็จะปล่อยเชื้อไวรัส หลังจากผู้ที่ถูกยุงกัดได้รับเชื้อ 5-8 วันก็จะปรากฏอาการป่วยได้
ทั้งนี้ โรคไข้เลือดออกมียุงเป็นตัวแพร่พันธุ์ เมื่อมีคนในบ้านหรือข้างบ้านเป็นไข้เลือดออกควรจะบอกคนในบ้านหรือข้างบ้านว่า มีคนเป็นไข้เลือดออกด้วย และแจ้งสาธารณสุขให้มาฉีดยาหมอกควันเพื่อฆ่ายุง รวมถึงป้องกันยุงกัดสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งต้องช่วยกันกำจัดแหล่งแพร่พันธุ์ยุงที่อยู่ในบ้านหรือรอบบ้าน ประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง โทร 0 2590 3145 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
*************************************** 14 พฤษภาคม 2557