วันนี้ (19 พฤษภาคม 2557) ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการประชุมสัมมนา 1 จังหวัด 1 ความโปร่งใส 1 กรม 1 ป้องกันการโกง เพื่อเตรียมการรองรับการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปี 2557 ว่า ในการประชุมวันนี้ ได้เชิญศาสตราจารย์ ดร.ภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ประกอบด้วยอธิบดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ผู้ทรงคุณวุฒิ สาธารณสุขนิเทศก์ รองอธิบดี ผู้อำนวยการทุกสำนัก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เกี่ยวกับมาตรการป้องกันปัญหาการทุจริต ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดแผนปฏิบัติการ 4 ปี ตั้งแต่พ.ศ. 2557 - 2560 เสร็จแล้ว และได้รับคำชมจาก ป.ป.ช.ว่า มีความก้าวหน้าเป็นรูปธรรม แผนมีความครอบคลุมตามกรอบยุทธศาสตร์ป้องกันปัญหาทุจริตแห่งชาติ และจะใช้เป็นต้นแบบแก่หน่วยงานอื่นๆ ด้วย
ในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการป้องกันปัญหาทุจริต ในปีนี้ จะเน้น 2 เรื่องสำคัญ เรื่องแรกคือ การจัดซื้อจัดจ้าง โดยกระทรวงจะวางระบบการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ จะให้ทุกจังหวัดจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างทุกระดับ ตั้งแต่ตำบล อำเภอ จนถึงระดับจังหวัด มี 5 รายการ ได้แก่ ยา วัสดุการแพทย์ วัสดุทันตแพทย์ วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ และวัสดุสำนักงาน เพื่อให้เกิดความชัดเจน ตรวจสอบได้ทุกกระบวนการ มีราคากลาง และราคาจัดซื้อได้จริง ซึ่งจะทำให้ได้ของดี มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม โดยจะพิจารณาร่วมกับหลักเกณฑ์จริยธรรมของการซื้อขายระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ โดยจะจัดประชุมหารือกรอบดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องในวันพรุ่งนี้
และเรื่องที่ 2 คือการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารทุกระดับ จะต้องปลอดการแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นได้ศึกษาวิจัยและเตรียมข้อเสนอในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับปลัดกระทรวงและอธิบดี ส่วนผู้บริหารในส่วนกลางและผู้บริหารในระดับจังหวัด เช่น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป สาธารณสุขอำเภอ จนถึงหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ได้มอบให้นายแพทย์สุเทพ วัชรปิยนันท์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข วางกรอบหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนขึ้น เพื่อเริ่มใช้ในปีงบประมาณ 2558
นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า ในการสร้างความชัดเจนทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมาจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบระบบ กลไกต่างๆ ทั้งเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ซึ่งจะมีประชาคมสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 30 วิชาชีพเข้ามามีส่วนร่วมเป็นกลไกตรวจสอบถ่วงดุล ซึ่งจะทำให้เกิดกลไกการพัฒนาระบบการเฝ้าระวัง ป้องกันปัญหาทุจริตหรือประพฤติมิชอบในเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และแผนดำเนินการในระยะต่อไปจะพิจารณาในเรื่องเวลาการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างเต็มที่และไม่ต้องรอนาน ซึ่งเรื่องนี้ได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนหลายแห่ง
ด้านนายแพทย์ทรงยศ ชัยชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2557-2560 ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.ปลูกและปลุกจิตสำนึกการป้องกันและต่อต้านการทุจริต เน้นการปรับเปลี่ยนฐานคิดของทุกคนในทุกภาคส่วนในการรักษาประโยชน์สาธารณะ และให้หน่วยงานภาครัฐบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ตั้งเป้าดำเนินการครอบคลุมหน่วยงานในสังกัดให้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ในปี 2557 และร้อยละ 85 ในปี 2558 2.บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐและพัฒนาเครือข่ายในประเทศ
3.พัฒนาความร่วมมือเครือข่ายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระหว่างประเทศ 4.พัฒนาระบบบริหารจัดการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตั้งเป้าปี 2557 ดำเนินการให้ได้ร้อยละ 85 ของหน่วยงานในสังกัด และ5.พัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตั้งเป้าปี 2557 ดำเนินการให้ครอบคลุมร้อยละ 80ของหน่วยงานในสังกัด
*************************** 19 พฤษภาคม 2557