ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทั่วประเทศ ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด โดยให้ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการแต่ละจังหวัด เตรียมทีมแพทย์ฉุกเฉินพร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง และประสานการทำงานร่วมกับหน่วยแพทย์ทหาร ยืนยันให้การดูแลทุกคนเสมอภาค
เย็นวันนี้(20 พฤษภาคม 2557)ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ประชุมผู้บริหารระดับสูงส่วนกลางประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการ สาธารณสุขนิเทศ รองอธิบดี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน เพื่อชี้แจงแนวทางในการดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน ภายหลังที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ วันนี้
นายแพทย์ณรงค์กล่าวว่า ได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเสี่ยงในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะต้องเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุด โดยให้ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัด ซึ่งประจำการที่โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปทุกจังหวัด สำรองเตียง คลังเลือด ห้องผ่าตัด และเตรียมหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมปฏิบัติการร่วมกับหน่วยแพทย์ทหารเสนารักษ์ทันทีที่ได้รับการประสาน เพื่อดูแลผู้เจ็บป่วยทุกคนอย่างเสมอภาค เท่าเทียมกัน อย่างเต็มที่และมีความปลอดภัยที่สุด ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามประเมินสถานการณ์ และบัญชาการการดูแลประชาชนหากเกินศักยภาพของจังหวัด
ด้านนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ ประธานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กล่าวว่า ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ได้วางแผนความพร้อมรองรับเหตุการณ์รุนแรงไว้ 3 ระดับ คือเล็กน้อย ปานกลาง และรุนแรงมาก เพื่อให้ทีมแพทย์กู้ชีพฉุกเฉินระดับสูง สามารถปฏิบัติการได้อย่างเต็มที่ ร่วมกับหน่วยกู้ชีพขั้นพื้นฐาน เช่นจากมูลนิธิร่วมกตัญญูและป่อเต๊กตึ๊ง ซึ่งมีประมาณ 60 ทีม ขณะนี้ได้แบ่งพื้นที่การทำงานร่วมกับกทม. และแพทย์ทหาร และกำหนดจุดรวมทีมแพทย์กู้ชีพในการปฏิบัติการที่โรงพยาบาลสงฆ์ และให้โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เตรียมสำรองเตียง เวชภัณฑ์ เลือด และห้องไอ.ซี.ยู. โดยประสานการทำงานร่วมกับศูนย์เอราวัณ กทม. โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลเอกชน และกองอำนวยการรักษาความสงบ หรือกอ.รส. โดยการกำหนดจุดต่างๆในการรับส่งต่อผู้ป่วยหรือบาดเจ็บตามแผนปฏิบัติการร่วม
สำหรับการดูแลที่จุดชุมนุมที่ถนนอักษะ จ.นครปฐม ได้ปรับแผน โดยย้ายศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าไปประจำการที่รพ.พุทธมณฑล ติดตามประเมินสถานการณ์ทุกวัน และเตรียมทีมแพทย์กู้ชีพระดับสูงวันละ 8 ทีม ปฏิบัติงานร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง มูลนิธิเอกชนในพื้นที่ และให้โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เป็นศูนย์กลาง รับการส่งต่อผู้เจ็บป่วยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 – 20 พฤษภาคม 2557 มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 807ราย เสียชีวิต 25 ราย และยังรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ 11 ราย ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บรายใหม่เพิ่มเติม
************************* 20 พฤษภาคม 2557