“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 140 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้าจำนวนผู้ป่วยจากกรณีสารเคมีรั่วไหลบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี วานนี้ พบผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นจาก 105 ราย เป็น 180 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน ขณะนี้ยังพักรักษาตัวที่รพ.วิภารามแหลมฉบัง รพ.แหลมฉบัง และรพ.พญาไทศรีราชา รวม 35 ราย เป็นเด็ก 8 รายและผู้ใหญ่ 27 ราย ทุกรายอาการไม่รุนแรง โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีและโรงพยาบาลแหลมฉบัง จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการชุมชนและโรงเรียนที่อยู่ในรัศมี 3-5 กิโลเมตร ต่อเนื่องจนกว่าจะไม่พบผู้ป่วย ล่าสุดนี้ไม่มีกลิ่นเหม็นในชุมชน
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีสารบิวทิล อะคลิเลต (Butyl Acrylate) รั่วไหลที่ท่าเรือแหลมฉบังเมื่อวานนี้ว่า เมื่อเวลา 8.30 น. วันนี้ (18 กรกฎาคม 2557) ได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่สูดดมแก๊สที่แหลมฉบังเพิ่มขึ้นอีก 75 ราย ทำให้ยอดจำนวนผู้ป่วยเพิ่มจากเมื่อวานที่มี 105 ราย รวมเป็น 180 ราย ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แพทย์รักษาและให้กลับบ้านได้ ขณะนี้ยังนอนพักรักษาในโรงพยาบาล 35 ราย เป็นเด็ก 8 รายและผู้ใหญ่ 27 ราย โดยเข้ารับการรักษาที่รพ. 5 แห่ง ดังนี้ 1.รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 65 ราย 2. รพ.สมิติเวช ศรีราชา 2 ราย 3. รพ.แหลมฉบัง 61 ราย นอนพักรักษาตัว 3 ราย เป็นเด็ก 2 รายและผู้ใหญ่ 1 ราย 4.รพ.พญาไท ศรีราชา 29 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นพนักงานจากท่าเรือแหลมฉบังทั้งหมด โดยนอนพักรักษาตัว 20 ราย และ5.ที่รพ.วิภาราม ศรีราชา 23 ราย นอนพักรักษาตัว 12 ราย เป็นเด็ก 6 รายและผู้ใหญ่ 6 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการมึนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน แสบตา ตาแดง ไอ ง่วงซึม
นายแพทย์วุฒิไกร ศักดิ์สุรกานต์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ในวันนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลแหลมฉบัง ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกเฝ้าระวังและติดตามประเมินผลกระทบสุขภาพของเด็กนักเรียนและชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุในรัศมี 3-5 กิโลเมตร จนกว่าจะปลอดภัย ผลการให้บริการวานนี้ ได้ตรวจสุขภาพทั้งหมด 337 ราย พบผู้มีอาการเวียนศีรษะจำนวน 43 ราย แต่อาการไม่รุนแรง แพทย์พยาบาลได้ให้การดูแลรักษาเบื้องต้นที่บ้าน จนอาการเป็นปกติ และจะจัดหน่วยแพทย์ออกให้บริการจนกว่าไม่พบผู้ป่วยในชุมชน ล่าสุดนี้ไม่มีกลิ่นเหม็นจากแก๊สแล้ว ทั้งนี้ได้ให้ความรู้ประชาชน นักเรียนในการดูแลป้องกันสุขภาพเบื้องต้นหากเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก คือ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก และออกจากพื้นที่โดยเร็ว หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่เกิดเหตุ ชำระล้างร่างกายเพื่อลดอาการแสบ และดื่มน้ำบรรจุขวด หากมีอาการผิดปกติเช่น หายใจติดขัด ไอ แสบตา ใจสั่น สามารถไปใช้บริการที่สถานบริการสาธารณสุขทั้งรัฐและเอกชนใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้ หรือโทร.แจ้งขอความช่วยเหลือที่หมายเลข 1669 ตลอดเวลา
*************** 18 กรกฎาคม 2557