กระทรวงสาธารณสุข เผยการบริหารงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในปีงบประมาณ 2558 ไม่กระทบผู้ป่วยโรคเฉพาะทาง ยืนยันได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนเดิม การปรับระบบการบริหารการเงิน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ มีความยืดหยุ่น ลดความซ้ำซ้อน ความสิ้นเปลือง     
ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2557 อ้างถึง กระทรวงสาธารณสุขเสนอตัดงบรักษาโรคเฉพาะด้านของบัตรทองเหลือ4 กองทุนนั้น  ความคืบหน้าในเรื่องนี้ วันนี้ (28สิงหาคม 2557)นายแพทย์บัญชา ค้าของ ผู้อำนวยการกลุ่มประกันสุขภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตามข้อเสนอการบริหารจัดการงบกองทุน ยืนยันว่าจะไม่มีการยุบกองทุนรักษาโรคเฉพาะทางแน่นอน    แต่จะเน้นการบูรณาการกองทุนย่อยให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้บริหารง่ายขึ้น  ลดความซ้ำซ้อนสิ้นเปลือง  โดยประชาชนยังคงได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนเดิมทุกประการ คุณภาพการให้บริการดีขึ้น  
      นายแพทย์บัญชากล่าวต่อว่า   การจัดบริการที่เป็นมาตรฐานในระบบสุขภาพที่ทุกฝ่ายยอมรับ แบ่งเป็น4 หมวด คือบริการผู้ป่วยนอก  ผู้ป่วยใน การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค  และมาตรา 41และอื่นๆ นั้น  จะส่งผลดีต่อสถานบริการ โดยกองทุนย่อยๆ ที่กำหนดโดยกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ผ่านมา มีเป้าหมายให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด เป็นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่กลไกการจัดบริการแตกเป็นกองทุนย่อยๆ ทำให้เกิดความซ้ำซ้อน สิ้นเปลืองจากการใช้ทรัพยากรและใช้อัตรากำลังบุคลากร เพื่อดูแลจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันโรงพยาบาลต้องจ้างคน จ่ายค่าตอบแทน และลงทุนด้านต่างๆ ส่งผลให้มีรายจ่ายติดลบ 30-60 เปอร์เซ็นต์ กระทรวงสาธารณสุข จึงต้องปรับระบบการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพที่สูงสุด บนเงื่อนไขที่ต้องไม่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ประชาชน และต้องได้รับบริการที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2558 เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุข ได้ปฏิรูประบบการบริหารจัดการเป็นเขตบริการสุขภาพมี 12 เขตและกทม. มอบอำนาจการบริหารจัดการไปที่เขตบริการสุขภาพ ซึ่งได้มีการหารือระบบการประสานความร่วมมือต่างๆ ในการดูแลประชาชน ร่วมกับผู้บริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
           นายแพทย์บัญชาได้กล่าวชี้แจงว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำข้อเสนอการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2558  ต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม2557 ซึ่งเป็นการระดมความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาค ตั้งแต่ระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน  โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รวมทั้งการทำประชาพิจารณ์ 4 ภาค ซึ่งมิได้มีข้อเสนอยุบกองทุนตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด แต่เน้นการบูรณาการกองทุนย่อยให้เป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถปรับเกลี่ยและลดความซ้ำซ้อนได้  กระจายการบริหารกองทุนเหล่านี้ลงสู่เขตสุขภาพ บริหารร่วมกันระหว่างเขตสุขภาพของกระทรวงฯ กับ สปสช. สาขาเขต ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 
      ประการสำคัญคือโปร่งใสตรวจสอบได้ แต่ยังคงสิทธิประโยชน์ของประชาชนเหมือน มิได้มีเจตนาไปลดสิทธิประโยชน์ของผู้ป่วยแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคไต โรคมะเร็ง ผู้ติดเชื้อเอชไอวี วัณโรค ฮีโมฟีเลีย หรือผู้ป่วย กลุ่มอื่นๆ ที่เคยได้รับสิทธิประโยชน์เดิมอยู่แล้ว ทุกกลุ่มยังได้รับการรักษาด้วยมาตรฐานเหมือนเดิม ได้รับยา เหมือนเดิม  รวมทั้งอาจจะมีผู้ป่วยโรคเฉพาะกลุ่มอื่นๆที่ สปสช. ส่วนกลางยังมิได้กำหนดไว้ แต่เป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ เขตบริการสุขภาพสามารถกำหนดแนวทางการบริหารเองเพื่อให้เหมาะสมแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ได้
สิงหาคม7/2 *************************************   28 สิงหาคม 2557


   
   


View 8    28/08/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ