โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เผยอาการคืบหน้าผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายแรก วันนี้ไม่มีไข้  อาการคงที่  ผลตรวจเลือดชันสูตรอีโบลาครั้งที่ 2 ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์ฯ เป็นลบ และตรวจพบติดเชื้อมาลาเรีย แพทย์ให้การรักษา และย้ายออกจากห้องแยกโรค ดูแลเหมือนผู้ป่วยทั่วไป

วันนี้ (5 กันยายน 2557)ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โอภาส  การย์กวินพงศ์  รองอธิบดีกรมควบคุมโรค  นายแพทย์ศุภมิตร  ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าอาการผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายแรกว่า จากการติดตามอาการวันนี้  ไม่มีไข้ อาการทั่วไปคงที่ ผลการตรวจหาการติดเชื้อไวรัสอีโบลาครั้งที่ 2 ได้ผลลบ ตรงกันทั้งที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และที่คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  สรุปว่ารายนี้ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา   โดยผลการตรวจเลือดเพิ่มเติม พบว่าติดเชื้อมาลาเรีย  แพทย์วินิจฉัยลักษณะอาการป่วยเข้าได้กับโรคมาลาเรีย  จึงให้การรักษาตามที่วินิจฉัย  และได้ย้ายออกจากห้องแยกโรค ให้การดูแลแบบผู้ป่วยทั่วไป  ส่วนจะกลับบ้านเมื่อใด ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้รักษา ซึ่งจะพิจารณาอาการของผู้ป่วย และผลการรักษาเป็นสำคัญ  สำหรับผู้สัมผัสทั้ง 16 ราย สามารถยุติการติดตามได้ 

ทางด้านนายแพทย์ศุภมิตร  ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า  องค์การอนามัยโลกรายงานสถานการณ์การระบาดของโรคอีโบลาในทวีปอาฟริกาด้านตะวันตก ล่าสุด มีผู้ป่วยยืนยัน 3,685 ราย เสียชีวิต 1,841 ราย ระบาดมากใน 3 ประเทศคือกินี ป่วย 771 รายเสียชีวิต 494 ราย ประเทศไลบีเรีย ป่วย 1,698 ราย เสียชีวิต 871 ราย และเซียร่าลีโอน ป่วย 1,216 ราย เสียชีวิต 476 ราย  ส่วนอีก 2 ประเทศการระบาดยังอยู่ในวงจำกัด ได้แก่ไนจีเรีย พบป่วย 21 ราย เสียชีวิต 7 และเซเนกัล พบผู้ป่วยรายแรก เป็นชาวกินี ที่เดินทางเข้ามาในประเทศนี้ ขณะนี้กำลังได้รับการรักษาและยังมีชีวิตอยู่ 

ผลการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศของไทย เมื่อวานมีผู้เดินทางจากประเทศที่มีการระบาด (ซึ่งออกจากประเทศมาไม่ถึง 21 วัน) จำนวน 4 คน ตั้งแต่ 8 มิถุนายน 2557 จนถึงวันที่ 4 กันยายน 2557  มีผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคอีโบลา รวม 1,082 คน ได้แก่  กินี 445 คน ไลบีเรีย 63 คน เซียร์ร่าลีโอน 41 คน ไนจีเรีย 529 คน และประเทศอื่นๆ 4 คน   ทุกคนมีอาการปกติ

นายแพทย์ศุภมิตรกล่าวต่อว่า  การที่พบผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค  แสดงประสิทธิภาพของระบบการเฝ้าระวังโรคของประเทศไทย หากระบบทำงานได้ดี  ควรจะตรวจพบผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค หรือผู้ป่วยสงสัยอีโบลาตามนิยามที่กำหนดไว้ ได้เป็นระยะ     การตรวจพบผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายแรกนี้  และการดูแลวินิจฉัยจนได้ข้อสรุปชัดเจน  เป็นผลของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ตามขั้นตอนการทำงานที่ได้เตรียมความพร้อมไว้   อย่างไรก็ ตามการเฝ้าระวังและป้องกันโรคอีโบลาของประเทศในระยะต่อไป จะได้ผลดีเพียงใด  ขึ้นอยู่ความร่วมมือของหน่วยงาน  ประชาชน และชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศเป็นสำคัญ   หากประชาชนพบผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด และมีอาการป่วย  หรือมีเหตุสงสัย  ควรแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้เคียง  ให้ไปตรวจสอบ  หรือแจ้งที่สายด่วนกรมควบคุมโรคหมายเลข 1422 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง 

************************* 5 กันยายน 2557



   
   


View 12    05/09/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ