กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัด เป็นเครือข่ายรองรับผู้ป่วยโรคหัวใจใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ให้โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งให้ยาละลายลิ่มเลือดผู้ป่วยโรคหัวใจเฉียบพลันได้ สวนหัวใจได้ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่และตรัง เพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยโรคหัวใจเฉียบพลันได้ร้อยละ 70  ส่วนผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจ ระยะเวลารอผ่าตัดลดลงเหลือ  2 -12เดือน

ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วยนายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลหาดใหญ่ รับฟังแผนพัฒนาระบบบริการ(Service Plan) และแผนการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของเขตสุขภาพที่ 12 ซึ่งประกอบด้วย 7 จังหวัดได้แก่สงขลา นราธิวาส ปัตตานี ตรัง พัทลุง ยะลา สตูล โดยปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของพื้นที่คือ การป่วยและตายและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ปัญหาอนามัยแม่และเด็ก ไข้เลือดออก ฟันผุ การบาดเจ็บและตายจากสถานการณ์ความไม่สงบ โรคเรื้อน การดูแลผู้เดินทางไปแสวงบุญ สาธารณสุขชายแดน การจัดบริการในพื้นที่เฉพาะ เช่น พื้นที่เกาะ พื้นที่มีความไม่สงบ

          ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า จากการรับฟังแผนการพัฒนาและแผนการจัดบริการของพื้นที่ พบว่าเขตสุขภาพที่ 12 พบว่ามีความพร้อมในการจัดบริการเพื่อดูแลสุขภาพประชาชน โดยมีโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัย กระทรวงกลาโหมและภาคเอกชน ซึ่งการจัดบริการมีความเฉพาะพิเศษจากพื้นที่อื่น เนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดน และมีปัญหาความรุนแรงในพื้นที่  ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่ต้องศึกษาข้อมูลและเติมเต็มศักยภาพในการจัดบริการด้านสุขภาพ

สำหรับในการจัดบริการผู้ป่วยโรคหัวใจ ในเขตสุขภาพที่ 12  เดิมในปี 2544 มีผู้ป่วยรอผ่าตัดมากกว่า 2,000 ราย รอนานประมาณ 2 ปีขึ้นไป เนื่องจากมีโรงพยาบาลสงขลานครินทร์แห่งเดียวที่ผ่าตัดได้  ในการแก้ปัญหาระยะแรก กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพ ส่งผู้ป่วยไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชน  ในขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขก็ได้มีแผนพัฒนาระบบบริการ ซึ่งโรคหัวใจเป็น 1 ใน 10 โรคสำคัญที่ต้องได้รับการพัฒนาในระยะแรก ดังนั้นเขตตรวจราชการที่ 12 ขึ้น จึงได้ทำแผนดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจเป็น เครือข่ายโรคหัวใจเขต 12  โดยในผู้ป่วยโรคหัวใจเฉียบพลัน มีนโยบายให้โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง สามารถให้ละลายลิ่มเลือด(Thrombolytic agent)ผู้ป่วยโรคหัวใจเฉียบพลัน ภายใต้ระบบการให้คำปรึกษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนส่งรักษาต่อ

ส่วนโรงพยาบาลระดับจังหวัด ได้เพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ป่วย เช่น การสวนหัวใจ ที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษคือเครื่องช่วยสวนหัวใจ(Cardiac Catheterization Laboratory) ขณะนี้ทำได้ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลตรัง  โดยโรงพยาบาลหาดใหญ่เปิดให้บริการเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ให้บริการผู้ป่วยไปแล้ว 746 ราย ระยะเวลารอคอย 4-5เดือน  ส่วนโรงพยาบาลตรัง เปิดให้บริการเดือนพฤษภาคม 2557 ให้บริการไปแล้ว 23 ราย ระยะเวลารอคอย ประมาณ 2เดือน และในปี 2558 จะเพิ่มศักยภาพให้โรงพยาบาลยะลาเปิดบริการได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาเครื่องมือ  นอกจากนี้ ได้จัดให้มีช่องทางด่วน( fast tract) ในการรับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลชุมชน  ทำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจเข้าถึงบริการรับยาละลายลิ่มเลือดและเปิดหลอดเลือดเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70  โดยตั้งเป้าอัตราการตายด้วยโรคหัวใจเฉียบพลันลดลงเหลือไม่เกินร้อยละ 10

 สำหรับการผ่าตัดเปิดหัวใจ ขณะนี้ผู้ป่วยได้รับบริการเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าตัว ทำผ่าตัดได้ใน 3 โรงพยาบาลคือ หาดใหญ่ ตรังและยะลา โดยความร่วมมือกับโรงพยาบาลสงขลานครินทร์  เฉลี่ยผ่าตัดได้ปีละมากกว่า 300 ราย   ซึ่งการส่งต่อผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการผ่าตัดหัวใจได้มีจัดระบบการส่งต่อโดยกระจายผู้ป่วย ให้รักษาใกล้บ้าน รอไม่นาน โดยให้โรงพยาบาลตรังรับส่งต่อผู้ป่วยจากจังหวัดสตูลและพัทลุง   โรงพยาบาลหาดใหญ่ รับจากจังหวัดสงขลาและปัตตานี  ส่วนโรงพยาบาลสงขลานครินทร์รับจากจังหวัดสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนใต้

                                                                    ********************************   25 ตุลาคม 2557



   
   


View 17    25/10/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ