“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 138 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุข เตือนอันตรายเล่นพลุ จุดประทัด และดอกไม้ไฟ ฉลองคืนวันลอยกระทง เสี่ยงอันตรายถึงขั้นตาบอด แก้วตาดำแตกจากแรงระเบิด มากกว่าร้อยละ 50 ต้องควักดวงตาทิ้ง แนะประชาชน รวมทั้งผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ ให้สวมใส่แว่นตาที่มีกรอบและเลนส์ใหญ่ จะป้องกันสะเก็ดระเบิดเข้าตาได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และหากถูกสะเก็ดพลุ ประทัด เข้าตา ห้ามขยี้ ห้ามจับ ห้ามล้างเองอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้สะเก็ดระเบิดฝังลึกลงไปอีก ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที หรือโทร 1669 แจ้งหน่วยกู้ชีพนเรนทร ตลอด 24 ชั่วโมง
นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในเทศกาลลอยกระทงในวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2557 คาดว่าจะมีประชาชนออกไปฉลองเทศกาลวันลอยกระทงกันมาก กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศเตรียมพร้อมหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน รถพยาบาล ให้พร้อมต่อการช่วยเหลือประชาชนที่จะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ อุบัติเหตุจากจราจร การจมน้ำ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่มักลงไปเก็บเงินในกระทง และการบาดเจ็บจากการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ซึ่งถือเป็นวัตถุอันตรายจัดอยู่ในประเภทของวัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง หากประชาชนพบเห็นผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ขอให้โทรศัพท์แจ้งหน่วย กู้ชีพนเรนทร หมายเลข 1669 ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันได้ให้ทุกจังหวัดประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้ปกครองเด็กขอให้ดูแลลูกหลาน หลีกเลี่ยงการเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้หรือพิการตาบอดได้
ด้านนายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี กล่าวว่า ในบรรดาอวัยวะของร่างกาย ตาถือเป็นอวัยวะที่มีความอ่อนไหวและสำคัญมากที่สุด หากได้รับการกระทบกระเทือน เช่น ฝุ่นควัน ของแข็ง น้ำสกปรก สารเคมี เปลวไฟ เพียงครั้งเดียวก็อาจพิการจนถึงขั้นตาบอดได้ แม้ว่าจะมีหนังตาเป็นเครื่องคุ้มกันดวงตาก็ตาม ดังนั้นประชาชนทุกคนต้องดูแลรักษาดวงตาให้ดีที่สุด
นายแพทย์ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า เรื่องที่น่าห่วงในเทศกาลวันลอยกระทง คาดว่าจะมีผู้ลักลอบเล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งวัตถุเหล่านี้มีอันตรายต่อดวงตาเป็นอย่างมาก เนื่องจากพลุหรือประทัด เมื่อมีการจุดติดไฟ จะเกิดแสง มีควัน และเกิดแรงระเบิด พร้อมเปลวไฟ หากเกิดการผิดพลาดขึ้น จะเป็นอันตรายต่อร่างกายที่พบได้ทุกปี คือ มือ ใบหน้า และดวงตา ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงตั้งแต่น้อย เช่น หนังตาและขนตาไหม้ ระดับปานกลาง คือ กระจกตาดำแตก ส่งผลให้เลือดออกในช่องม่านตา และระดับรุนแรงที่สุด คือ แก้วตาดำแตกและไหม้ ส่งผลต่อความพิการของดวงตา มากกว่าร้อยละ 50 จะต้องควักดวงตาออก เนื่องจากดวงตาถูกทำลายและป้องกันการติดเชื้อลุกลามขึ้นสมอง มีเพียงส่วนน้อยที่จะรักษาด้วยการเย็บแผลแล้วหายเป็นปกติ จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนพึงตระหนัก เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะที่จำเป็นต่อการหาเลี้ยงชีพ
นายแพทย์ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า ประชาชนควรเลือกเที่ยวงานวันลอยกระทงที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้เล่นพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟในพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น และแนะนำให้สวมแว่นตา รวมทั้งผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์สายตาหรือแฟชั่นด้วย แนะนำให้ถอดออกและใส่แว่นแทน แว่นที่มีกรอบและเลนส์ขนาดใหญ่จะผลดี จะช่วยป้องกันสะเก็ดจากพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟเข้าตาได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้หากโดนสะเก็ดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟกระเด็นเข้าตา ในการดูแลเบื้องต้น ให้ใช้ผ้าสะอาดปิดตาและกุมลูกตาทันที ห้ามขยี้ ห้ามจับ ห้ามล้างน้ำเองโดยเด็ดขาด เนื่องจากยิ่งทำให้สะเก็ดฝังลึกลงไปอีก ขอให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันทีเพื่อให้แพทย์เฉพาะทางรักษา ส่วนผู้ที่ถูกควันจากดอกไม้ไฟชนิดเย็นเทียนเข้าตา ซึ่งนิยมเล่นกันมาก ควรใช้น้ำสะอาดล้างตาและประคบเย็นที่ดวงตา หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาโดยเร็วที่สุด
************************** 6 พฤศจิกายน 2557