กระทรวงสาธารณสุข แสดงความสำเร็จผลงานชิ้นโบว์แดงในรอบ 3 เดือน กระจายโอกาสประชาชนทุกพื้นที่เข้าถึงบริการง่าย รวดเร็วขึ้น ระบบการป้องกันโรคอีโบลาเข้าประเทศได้ผลดีขยายผลต่อเนื่องปีหน้าเชื่อมโยงอาเซียนบวกสาม สร้างกระทรวงสีขาว เตรียมประกาศใช้กฎหมายใหม่ 27 ฉบับ อาทิ ควบคุมนมผง-อาหารเสริมเด็ก เหล้า บุหรี่ ควบคุมโรคติดต่อ เป็นต้น คาดมีผลบังคับใช้ 2558
          วันนี้ (26 ธันวาคม 2557) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศาสตราจารย์ นายแพทย์รัชตะ  รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์  สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมกันเปิดมหกรรมการแสดงผลงานรอบ 3 เดือน กระทรวงสาธารณสุข เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินงานในการจัดบริการด้านสาธารณสุข รอบ 3 เดือน (12 กันยายน - 12 ธันวาคม 2557) ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 
          ศ.นพ.รัชตะกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพบริการสาธารณสุข ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานและจำเป็น โดยเฉพาะในระดับรากหญ้า โดยกำหนดเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวง 10 เรื่อง และแปลงไปสู่การปฏิบัติเป็นกิจกรรม/โครงการไม่ต่ำกว่า 50 โครงการย่อย มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในรอบ 3 เดือน ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างชัดเจน 4 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาระบบบริการ 2.การควบคุมป้องกันโรค 3.สร้างความโปร่งใสขององค์กร และ4.การออกกฎหมายสำคัญเพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนางานสาธารณสุข
          ศ. นพ.รัชตะ กล่าวต่อว่า ในการพัฒนาระบบบริการ ได้ให้หน่วยงานทุกระดับเร่งพัฒนาระบบให้ประชาชนได้รับบริการที่ใกล้บ้าน สะดวกและรวดเร็วขึ้น ลดระยะเวลารอคอยการรักษา ให้ความสำคัญกับโครงการในพระราชดำริและเฉลิมพระเกียรติฯ เช่น 1.โครงการคัดกรองและผ่าตัดตาต้อกระจกและใส่เลนส์แก้วตาเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคัดกรองผู้สูงอายุถึงชุมชนเพื่อค้นหาผู้สูงอายุที่สายตาพร่ามัวจากต้อกระจกใกล้บอด ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 60,000 คนและผู้ที่สายตาพร่ามัวอีก 200,000 ราย ขณะนี้ ผ่าตัดผู้ป่วยใน 3 จังหวัดชายแดนใต้แล้ว 728 ราย และจะผ่าตัดใน 74 จังหวัดที่เหลือ คาดว่าภายในเดือนกันยายน 2558 จะผ่าตัดได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 ราย 2.โครงการฟันเทียมพระราชทาน ใส่ฟันเทียมแก่ประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไปที่สูญเสียฟันตั้งแต่ 16 ซี่ขึ้นไปในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งรวม 900 แห่ง เป้าหมายตลอดปี 84,000 คน ได้รับฟันเทียมแล้วเกือบ 20,000 ราย 3.โครงการฝังรากฟันเทียมพระราชทานที่โรงพยาบาลสังกัดภาครัฐ ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขกว่า 200 แห่ง เป็นนวัตกรรมใหม่ของคนไทย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามรากฟันเทียม ว่า “ข้าวอร่อย” มีเป้าหมาย 5,000 คน ขณะนี้ได้รับการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแล้ว 806 คน
          4.โครงการพัฒนาสุขศาลาพระราชทานในโรงเรียนตำรวจชายแดน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการสุขภาพแก่ประชาชนในพื้นที่ทุรกันดาร  ห่างไกลความเจริญ การเดินทางยากลำบาก ต้องเดินเท้า โดยร่วมกับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และภาคส่วนอื่นๆ ขณะนี้ดำเนินการแล้ว 16 แห่งใน 9 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ เชียงราย กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ยะลา และนราธิวาส  โดยอบรมตำรวจตระเวนชายแดนให้สามารถดูแลสุขภาพเบื้องต้น และพัฒนาคุณภาพเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลชุมชน ในการปรึกษารักษาผ่านระบบการสื่อสารทางไกล 5.โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักและคอตีบ แก่ประชาชนอายุ 20-50 ปีทั่วประเทศ 28 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดก่อนที่ประเทศไทยเริ่มแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็กระดับชาติ ใน พ.ศ. 2520 จึงยังไม่เคยได้รับวัคซีนชนิดนี้ อีกทั้งประชาชนประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีการระบาดของโรคนี้เดินทางเข้าออกประเทศไทยเป็นจำนวนมาก จึงมีโอกาสกลับมาแพร่ระบาดในไทยได้ โดยขณะนี้ฉีดครบแล้วในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจะครอบคลุมทุกจังหวัดในกันยายน 2558 เพื่อเร่งรัดให้โรคนี้หมดไปจากประเทศไทย
          6.พัฒนาระบบบริการโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ซึ่งพบผู้ป่วยปีละ 281,221 คน เสียชีวิต 54,000 คน ขณะนี้ มีโรงพยาบาลที่สามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ 460 แห่งหรือร้อยละ 58 ของโรงพยาบาลทั้งหมด ส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยลดลงจากร้อยละ 17 เหลือร้อยละ 12 และลดระยะเวลารอคอยการผ่าตัดหัวใจจากเดิมประมาณ 9 เดือน เหลือเฉลี่ย 4 เดือน จะขยายให้ได้ร้อยละ 90 ในภายในสิ้นปี 2558 นี้       7.พัฒนาระบบบริการผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ได้ตั้งหน่วยดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป 42 แห่ง และมีโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป/ชุมชน ที่ให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ 137 แห่ง โดยจัดช่องทางด่วนและระบบการส่งต่อที่รวดเร็วจากบ้านถึงโรงพยาบาล ซึ่งช่วยลดการเสียชีวิตและความพิการได้ โดยโรคนี้มีผู้ป่วยปีละ 237,039 คน เสียชีวิต 23,350 คน หากผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาล ได้รับยาละลายลิ่มเลือดภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง จะช่วยให้หายจากโรคอัมพฤกษ์อัมพาตได้
          และ8.การพัฒนาความเข้มแข็งระบบบริการปฐมภูมิ ดำเนินการเต็มพื้นที่ทุกอำเภอ เน้นการส่งเสริมสุขภาพ ลดจำนวนผู้เจ็บป่วย เพิ่มการเข้าถึงบริการ โดยจัดทีมหมอครอบครัวเป็นทัพหน้าลงพื้นที่ดูแลเยี่ยมบ้านทุกครัวเรือนที่มี 22 ล้านครัวเรือน ให้บริการเสมือนญาติ ในรอบ 3 เดือนนี้ นำร่องดำเนินการ 250 อำเภอใน 77 จังหวัด รวม 30,000 ทีม ให้การดูแลทั้งคนปกติ และ 3 กลุ่มที่อยู่บ้านต้องได้รับการดูแลใกล้ชิดต่อเนื่องระหว่างบ้านและโรงพยาบาล ได้แก่ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิต ที่มีจำนวน 1,036,937 คน ทำให้ครอบครัวและชุมชนมีความสุข คุณภาพชีวิตดีขึ้น   
          ศ.นพ.รัชตะกล่าวต่อไปว่า สำหรับด้านการป้องกันควบคุมโรค เช่น 1.โรคอีโบลา ที่มีการระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศแถบแอฟริกาตะวันตก ถือเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก ประเทศไทยได้แสดงบทบาทผู้นำในการควบคุมป้องกันโรคในภูมิภาคอาเซียน และ 3 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งได้จัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวก 3 วาระพิเศษ ภายใต้การยกย่องขององค์การอนามัยโลก โดยมีระบบการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดทุกช่องทาง และความพร้อมของโรงพยาบาลหากมีผู้ป่วยเดินทางเข้าประเทศ ทั้งด้านการดูแลรักษา และห้องปฏิบัติการ มั่นใจว่าสามารถรับมือได้ โดยผลการคัดกรองผู้เดินทาง 3,588 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา 2.เปลี่ยนระบบการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 โดยให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสทันทีที่วินิจฉัยว่าติดเชื้อเอชไอวี โดยไม่ต้องรอให้ภูมิต้านทานลดลง ช่วยให้ผู้ติดเชื้อเข้าถึงการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเร็วขึ้นและช่วยป้องกันการแพร่เชื้อได้ดียิ่งขึ้น ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้รับยาต้านไวรัสแล้ว 3,631 คน  โดยซึ่งขณะนี้ องค์การเภสัชกรรมได้แก้ไขปัญหาการขาดแคลนยาต้านไวรัสเรียบร้อยแล้ว มียาต้านไวรัสเพียงพอให้การรักษาผู้ติดเชื้อทุกราย และเร่งดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตยาแห่งใหม่ที่รังสิต จ.ปทุมธานี จะแล้วเสร็จกลางปี 2558 และโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ตำบลทับกวาง จ.สระบุรี  จะเริ่มผลิตวัคซีนได้ต้นปี 2561      
          ด้านการสร้างความโปร่งใสขององค์กร ลดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน อาทิ 1.ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการบริหารจัดการด้านยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาอีก 4 กลุ่ม ได้แก่ วัสดุการแพทย์ วัสดุทันตกรรม วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์และวัสดุเอกซเรย์ เป็นแนวทางการปฏิบัติงานทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งบประมาณ และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน 2.ประกาศเกณฑ์จริยธรรมว่าด้วยการจัดซื้อจัดหาและส่งเสริมการขายยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา เพื่อควบคุมการส่งเสริมการตลาดของบริษัทยาและวัสดุทางการแพทย์ที่ขาดจริยธรรม เช่น การให้บุคลากรสาธารณสุขไปศึกษาดูงานต่างประเทศ และผลประโยชน์ทับซ้อนรูปแบบต่างๆ ส่งผลให้เกิดปัญหาการใช้ยาไม่สมเหตุสมผลตามมา และผิดกฎหมายการปราบปรามทุจริตมาตรา 130 ซึ่งห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐรับผลประโยชน์ที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท 3.สร้างเครือข่ายสอดส่องเฝ้าระวังปัญหาทุจริต โดยใช้อาสาสมัครสาธารณสุข 87,600 คน พยาบาล และชมรมสาธารณสุข 52 ชมรม และ4.สนับสนุนโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นโรงพยาบาลคุณธรรม ให้บริการด้วยใจ ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ผู้รับบริการมีความสุข
          ด้านการออกกฎหมาย ในรอบ 3 เดือนนี้ ได้จัดทำร่างกฎหมายใหม่รวม 9 ฉบับ คาดประกาศใช้ในปี 2558 อาทิ ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ 1 ฉบับ ใช้แทนกฎหมายเดิม 2 ฉบับที่ใช้มา 22 ปี ให้ทันสมัยและทันกลยุทธ์การตลาดบริษัทบุหรี่ข้ามชาติ เพื่อลดนักสูบหน้าใหม่ 2.ร่างพ.ร.บ.ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารทารกและเด็กเล็กและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ติดต่อกันนาน 6 เดือน ซึ่งผ่านการทำประชาพิจารณ์ ประชาชนร้อยละ 87 พึงพอใจในระดับดีถึงดีมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอเข้าครม.
          กฎหมายลูกตาม พ.ร.บ. ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 7 ฉบับ ได้แก่ การกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายห้ามดื่มบนทางรถไฟ ในสถานีขนส่ง ในท่าเรือโดยสารสาธารณะ บนทางสาธารณะที่ใช้สัญจร สถานที่ที่อยู่ในกำกับดูแลใช้สอยของหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ 5 วัน ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา และประกาศคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรื่องฉลากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บังคับไม่ให้ใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค เกินจริง หรือเป็นเท็จก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสินค้า กฎหมายเหล่านี้ จะช่วยลดผลกระทบทางสังคม อาชญากรรม สุขภาพและอุบัติเหตุ ที่เกิดจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกฎหมายอื่นๆ เช่นพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฉบับใหม่ รวมทั้งสิ้น 27 ฉบับ คาดว่าจะประกาศใช้ในปี 2558
        


   
   


View 11    26/12/2557   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ


นายกรัฐมนตรี(2) ยกเลิกประกาศประกวดราคาจัดซื้อครุภัณฑ์โฆษณาและเผยแพร่ฯ(6) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(6) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(4) สถานชีวาภิบาล(2) โครงการพาหมอไปหาประชาชน(2) ปลัด สธ.(3) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(2) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู(146) สสจ.นภ(2) โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา(86) สสจ.หนองบัวลำภู(144) สุไหงโกลก(24) กระทรวงสาธารณสุข(25) รมว.สธ.(3) โรงพยาบาลร้อยเอ็ด(4) ร้อยเอ็ด(2) สสจ.เลย(27) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย(18) จังหวัดเลย(18) โรงพยาบาลเลย(9) ยาเสพติด(14) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร(133) ผู้สูงอายุ(5) อสม.(2) หมอใหญ่กรุงเก่า(43) สสจ.พระนครศรีอยุธยา(43) สสจ.อย.(43) สสจ.กรุงเก่า(43) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา(43) โรงพยาบาลบุรีรัมย์(72) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด(6) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด(2) อธิบดีกรมอนามัย(5) กรมอนามัย(19) โรงพยาบาลหนองคาย(18) รพ.หนองคาย(17) สสจ.ยะลา(2) จังหวัดยะลา(2) รพ.สุไหงโก-ลก(3) รองอธิบดีกรมอนามัย(4) SAN(2) สุไหงโก-ลก(3) สำนักงานเขตสุขภาพที่ 8(4) พาหมอไปหาประชาชน(2) TO BE NUMBER ONE(6) ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี(2) สสจ.นครราชสีมา(8) รพ.แม่สอด(57) อนามัยสิ่งแวดล้อม(3) กิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ(3) 3 อ. 2 ส.(3) 2567(2) โรงพยาบาลอินทร์บุรี(3) จังหวัดสิงห์บุรี(3) Medical Hub(3) โรงพยาบาลนครปฐม(10) แพทย์หญิงอัจฉรานิธิอภิญญาสกุล(3) ประชุมวิชาการ(3) บริจาค(6) ชื่นชมบุคลากร(3) ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ(2) โรคติดต่อ(2) รพ.เลย(3) ประกันสังคมจังหวัดพะเยา มอบของเยี่ยมแก่ผู้ประกันตนที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลพะเยา(2) จังหวัดตราด(5) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(2) พระราชพิธี(2) พระราชกุศล(2) เขตสุขภาพที่6(4) น้ำท่วม(10) น้ำท่วมจังหวัดตราด(2) จันทบุรี(2) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน(2) เขตสุขภาพที่ 7(6) MOU(2) สุขภาพ(2) ประกันสังคม(2) ภาวะพึ่งพิง(2) ประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน(2) นพ.สสจ.หนองคาย(9) เขตสุขภาพที่ 8(3) ข่าวรอบรั้วภูมิภาค(3) ข่าวประชาสัมพันธ์ สสจ.หนองคาย(6) วันแม่แห่งชาติ(2) สสจ.หนองคาย(9) วันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2567(2) นายแพทย์สุรพงษ์ ผดุงเวียง(3) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย(3) สสจ.อุดรธานี(37) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์(2) อุบลรัตน์(2) ความร่วมมือด้านการแพทย์ สปป.ลาว(2) อาหารปลอดภัย(2) 30 บาทรักษาทุกที่(2) โรงพยาบาลสมุทรสาคร การสัมมนาวิชาการเพื่อการพัฒนาเครือข่ายบริการด้านโรคลมชัก(2) SEhRT(4) ท่องเที่ยว(2) สุโขทัย(2) โรงพยาบาลหนองคาย รพ.หนองคาย(5) เครื่องสำอาง(3) โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมารับมอบเงิน 200(2) 000 บาท(2) พอสว(2) โรงพยาบาลสงขลา Songkhla Hospital(9) “บัตรประชาชนใบเดียว รักษาทุกที่”(2) เสริมพลังวัดส่งเสริมสุขภาพ(2) รางวัลเลิศรัฐ(2) จัดทีมหน่วยปฐมพยาบาลให้บริการตรวจรักษาผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลาก หน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ตำบลแม่กา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา(2)