กระทรวงสาธารณสุข ห่วงประชาชนเสี่ยงป่วยและเสียชีวิต จาก 2 โรคสำคัญในช่วงอากาศหนาวเย็นคือไข้หวัดใหญ่และปอดบวม เฉพาะ 3 เดือนแรกช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่ตุลาคม-ธันวาคม 2557 พบผู้ป่วยทั้ง 2 โรครวม 56,000 กว่าราย เสียชีวิต 111 ราย โดยเป็นโรคปอดบวม 42,000 กว่าราย เสียชีวิต  92 ราย โรคไข้หวัดใหญ่ป่วย 14,000 กว่าราย เสียชีวิต 19 ราย พบมากในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ แนะประชาชนดูแลสุขภาพ ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ หากป่วยเป็นไข้หวัดให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำและพักผ่อนมากๆ หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ไข้สูงขึ้น ไอ เจ็บหน้าอก หายใจหอบเร็ว ให้รีบพบแพทย์รักษาทันที

ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูหนาว ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็น ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว รวมทั้งบางพื้นที่ที่ยังมีฝนตกอยู่ สภาพอากาศช่วงนี้ส่งผลให้ผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็ง ไตวาย เป็นต้นเสี่ยงป่วยได้ง่าย โรคที่พบได้บ่อยในช่วงนี้มี 2 โรค คือไข้หวัดใหญ่โดย 3 เดือนแรกช่วงฤดูหนาว  ตั้งแต่ตุลาคม-ธันวาคม 2557 พบผู้ป่วยรวม 56,851ราย เสียชีวิต 111 ราย  พบมากในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ  โดยเป็นโรคปอดบวม 42,357 ราย เสียชีวิต  92 ราย  โรคไข้หวัดใหญ่ 14,494 ราย เสียชีวิต 19 ราย  

สำหรับตลอดปี 2557 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 72,623 ราย เสียชีวิต 81 รายและโรคปอดบวม พบผู้ป่วย197,531 ราย เสียชีวิต 891 ราย  โดยโรคปอดบวมเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของโรคติดเชื้อทั้งหมด เป็นโรคติดเชื้อที่มีความรุนแรงเฉียบพลันและมักเกิดแทรกซ้อนตามหลังโรคทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่   ทั้งนี้ จากติดตามข้อมูลการเฝ้าระวังโรคย้อนหลังพบว่า โรคไข้หวัดใหญ่จะพบผู้ป่วยสูง 2 ช่วง คือมกราคมถึงมีนาคม และกรกฎาคมถึงตุลาคม ส่วนโรคปอดบวมพบผู้ป่วยสูง 2 ช่วง คือกรกฎาคมถึงพฤศจิกายน และมกราคมถึงมีนาคม ได้กำชับสำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันการเจ็บป่วย และ หากพบผู้ป่วยและเป็นกลุ่มเสี่ยงขอให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ ดูแลรักษาตามแนวทางการรักษาและป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนหลังเจ็บป่วยจากโรคอื่นๆ

ด้านนายแพทย์โสภณ  เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาว ขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน รวมทั้งผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ให้สวมเสื้อผ้าหนาๆ ให้ความอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ  ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือบ่อยๆ  หากป่วยมีอาการไข้ไอเจ็บคอน้ำมูก ขอให้พบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป  ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัด ขอให้ดื่มน้ำและพักผ่อนมากๆ สวมหน้ากากอนามัย หยุดเรียน หยุดทำงาน เพื่อป้องกันเชื้อแพร่ไปติดคนอื่น หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน หรืออาการรุนแรงขึ้น เช่น มีไข้สูงขึ้น น้ำมูกเปลี่ยนสีเป็นเขียวข้น ไอเจ็บหน้าอก หากเป็นเด็กเล็กๆ ควรสังเกตอาการ หากเด็กซึมลง ไม่กินนม ไข้สูง ไอ หายใจลำบาก หายใจหอบเร็ว หรือหายใจจนซี่โครงบุ๋ม ขอให้รีบไปพบแพทย์  ทั้งนี้ ประชาชนมีข้อสงสัย สามารถปรึกษา หรือขอคำแนะนำที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422  ตลอด 24 ชั่วโมง    

                                                                                *****************     13 มกราคม 2558

         



   
   


View 14    14/01/2558   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ