วันนี้(21 มีนาคม2558)นายแพทย์สมศักดิ์ชุณหรัศมิ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้บริหารติดตามและรับฟังสถานการณ์ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือรับฟังการแก้ไขปัญหาหมอกควันของชุมชนที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่10เชียงใหม่โรงพยาบาลนครพิงค์และที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองจ๊อมอ.สันทรายจ.เชียงใหม่และให้สัมภาษณ์ว่าจากข้อมูลการเฝ้าระวังฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน(PM10) ของกรมควบคุมมลพิษใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนที่มีค่าเกินมาตรฐานคือ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรทุกจังหวัดตลอด 1 สัปดาห์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพชัดเจน โดยเฉพาะผู้ป่วย 4 กลุ่มเสี่ยง คือโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด ตาแดงตาอักเสบและผิวหนังอักเสบอาจมีอาการกำเริบได้ง่ายหากมีอาการผิดปกติ ให้รับไปพบแพทย์
นายแพทย์สมศักดิ์กล่าวว่าได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่และสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัดประกอบด้วยจังหวัดเชียงรายเชียงใหม่น่านพะเยาแพร่แม่ฮ่องสอนลำปางและลำพูนเฝ้าระวังผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเพื่อให้ได้รับบริการอย่างทั่วถึงจัดเตรียมทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่กรณีเหตุการณ์ผิดปกติสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่สำรองหน้ากากอนามัยเพิ่มอีก205,000 ชิ้นพร้อมแจกจ่ายหากคุณภาพอากาศยังไม่ปลอดภัยรวมทั้งให้ความรู้แก่ประชาชนทุกช่องทางในช่วงปริมาณฝุ่นสูงเน้น 3 มาตรการได้แก่ 1.การป้องกันตัวเองหลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม ใช้หน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าปิดจมูกปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด 2.จัดจุดปลอดภัย(Clean air) สำหรับเด็กผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงเช่นหญิงตั้งครรภ์โรคภูมิแพ้หอบหืดให้เข้าไปอยู่อาศัยชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบและ3.ให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำจากทางราชการอย่างใกล้ชิดหากเจ็บป่วยสามารถโทรปรึกษาทีมหมอครอบครัวและอสม.ในพื้นที่ได้อย่างไรก็ตามต้องขอความร่วมทุกฝ่ายเร่งช่วยกันดับไฟลดการเผาป่าขยะเพื่อลดควันไฟ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั้งระยะสั้นและอาจส่งผลระยะยาวโดยเฉพาะที่ปอดได้
นายแพทย์สมศักดิ์ได้กล่าวชื่นชมเทศบาลตำบลหนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่สามารถดำเนินการลดปัญหาหมอกควันในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยร่วมมือกับชุมชน หน่วยงานราชการ โรงพยาบาล ด้วยการจัดทำเวทีประชาคมหมู่บ้าน ร่วมรณรงค์งดเผาฟาง และตอซังพืช ย่อยกิ่งไม้ ใบไม้ทำปุ๋ยหมัก ลดการเผาในชุมชน มีการจัดทำห้องอากาศสะอาด กรณีภาวะฉุกเฉินที่มีปัญหาหมอกควันเกินค่ามาตรฐานมากให้ประชาชนได้อพยพมาอาศัย พร้อมให้มีการเปิดละอองน้ำ รดน้ำในพื้นที่ เพื่อช่วยลดปัญหาหมอกควัน ซึ่งทำให้ลดปัญหาแสบตา เจ็บคอ ของคนในพื้นที่ได้ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่องค์กรส่วนท้องถิ่นอื่นๆ นำไปเป็นแบบอย่างต่อไป
ทางด้านนายแพทย์พรเทพศิริวนารังสรรค์อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่าหากระดับหมอกควันอยู่ในระดับอันตราย(สีแดง) มีระดับฝุ่นมากกว่า 420 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรมีผลกระทบต่อสุขภาพต่อประชาชนทั่วไปและประชาชนกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสหัวใจวายเฉียบพลันหรือหากได้รับเป็นเวลานานอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอด ซึ่งกรมอนามัยกรมควบคุมโรคและกรมควบคุมมลพิษได้จัดทำคำแนะนำสำหรับประชาชนในการป้องกันสุขภาพตามระดับผลกระทบต่างๆเพื่อสื่อสารให้ประชาชนรับทราบ นอกจากนี้ควรงดกิจกรรมภายนอกอาคารทุกประเภท ควรอยู่ในอาคารหรือห้องที่สะอาด ปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน ทั้งนี้ หากสถานการณ์ยังมีความรุนแรงต่อเนื่อง แนะนำให้อพยพประชาชนไปยังสถานที่ที่มีห้องอากาศสะอาดที่ได้จัดเตรียมไว้
ด้านนายแพทย์ไพศาลธัญญาวินิชกุลนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่าในช่วงสถานการณ์หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่มีประชาชนเจ็บป่วยเช่นโรคหัวใจและหลอดเลือดอาการกำเริบแน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวกตาแดงผื่นคันรับบริการในโรงพยาบาล24 แห่งจำนวนประมาณ 2,000-3,000 รายต่อวัน แต่ไม่มีรายงานอาการรุนแรงได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ติดตามสถานการณ์หมอกควัน อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมยาและเวชภัณฑ์พร้อมให้พร้อมบริการประชาชนขณะนี้ได้แจกหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ไปแล้ว 130,000 ชิ้นสำรองไว้อีก 100,000 ชิ้น
************************************** 21 มีนาคม 2558